Written by on

การช่วยเหลือตัวเองเมื่อพลัดตกเรือ

หลายคนเดินทางโดยการโดยสารเรือ หรือ การท่องเที่ยวโดยการนั่งเรื่อ หากเกิดอุบัติเหตุพลัดตกเรื่อขึ้นมา คุณจะต้องทราบถึงวิธีการช่วยเหลือตนเอง ดังต่อไปนี้

เมื่อตกไปในน้ำก็ให้พยายามว่ายเข้าหาเรือ หรือเข้าฝั่งให้เร็วที่สุด ทั้งนี้เพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่จะเกิดขึ้นจากกระแส น้ำที่พัดพาตัวเราให้ไปตกอีกแก่งหนึ่งได้

เมื่อตกน้ำ ให้พยายามลอยตัวให้อยู่เหนือน้ำในลักษณะท่านอนหงาย ยกขาทั้งสองข้างขึ้นระดับผิวน้ำ เสื้อชูชีพจะช่วยพยุง ตัวให้ลอย พยายามให้ขาไปข้างหน้าขณะที่ไหลไปตามกระแสน้ำ ค่อย ๆ เตะขาอย่างช้า ๆ เพื่อชะลอความเร็วและป้องกัน ตัวเองจากการกระแทกกับแก่งหิน

ที่สำคัญอย่างยิ่งในการล่องเรือ ผู้เชี่ยวชาญเน้นที่ความปลอดภัยทุกครั้ง โดยเฉพาะอุปกรณ์พื้นฐาน เช่น เสื้อชูชีพ หมวกกัน น็อก เสื้อชูชีพจะช่วยพยุงตัวเราให้ลอยเหนือน้ำ ส่วนหมวกกันน็อกนอกจากจะช่วยป้องกันศีรษะกระแทกกับหินแล้ว ใน กรณีตกจากเรือ ยังช่วยป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุไม้พายของคนข้างหลังตีอีกด้วย

ขอขอบคุณข้อมูล tongtiew.com ภาพประกอบจากอิเตอร์เน็ต

 

Written by on

Written by on

สิ่งควรรู้ก่อนเดินทางเที่ยวต่างประเทศ

การจะเดินทางไปต่างประเทศแต่ละทีมีเรื่องให้ต้องเตรียมตัวมากมาย แต่เรื่องเอกสารต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างหนึ่ง คุณอาจเดินทางโดยเสียเปล่าไม่ได้เข้าประเทศนั้น ดังนั้นวันนี้ ต้นเทียน มีเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนเดินทางมาให้คุณ

1. หาข้อมูลว่าว่าประเทศที่จะเดินทางไปนั้นมีกฎหมาย ห้ามการนำสิ่งของใดเข้าประเทศ ในบางประเทศ เช่น ประเทศสิงคโปร์และประเทศ มาเลเซีย การนำอาวุธปืน กระสุน วัตถุระเบิด หรือยาเสพติดร้ายแรงเข้าประเทศจะ มีโทษถึงประหารชีวิต สำหรับประเทศญี่ปุ่นมีกฎหมายห้ามนำยาคุมกำเนิดเข้า ประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต

2. ไม่ควรรับฝากสิ่งของจากผู้อื่น เว้นแต่จะได้ตรวจสอบให้แน่ใจด้วยตนเองแล้วว่า สิ่งของนั้นไม่เป็นของที่ผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด อาวุธ หรือสารต้องห้าม เพราะ หากถูกเจ้าหน้าที่ปลายทางตรวจพบจะยากในการแก้ข้อหา

3. ควรจำหรือพกพาหมายเลขโทรศัพท์และที่อยู่ของสถานทูต สถานกงสุลไทยใน ต่างประเทศไว้ตลอดเวลา เพื่อใช้ติดต่อขอความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน

4. หนังสือเดินทางเป็นเอกสารสำคัญมากควรถ่ายสำเนาเก็บไว้อย่างน้อย 1 ชุด และ ในกรณีที่หนังสือเดินทางหายให้แจ้งความต่อตำรวจท้องถิ่นและนำใบแจ้งความมา ติดต่อเจ้าหน้าที่สถานทูต หรือสถานกงสุลไทยที่อยู่ใกล้ที่สุดทันที เพื่อขอออกเอกสาร การเดินทางแทน กรณีเช่นนี้ หากมีบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดงก็จะช่วยให้ออก เอกสารการเดินทางได้เร็วขึ้น

5. ควรหมั่นตรวจสอบอายุของวีซ่า เพราะหากวีซ่าขาดอายุท่านอาจถูกปรับ จำคุก และ/หรือส่งตัวกลับประเทศไทยได้

6. ไทยได้ทุกแห่ง แม้ว่าท่านอาจไม่มีหนังสือเดินทาง หรือวีซ่าขาดอายุ หรือเป็นผู้เข้าเมือง โดยผิดกฎหมายก็ตาม เจ็ด ผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศเป็นระยะเวลานานควรแจ้ง ชื่อ ที่อยู่ ให้สถานทูตหรือ สถานกงสุลไทยประจำประเทศที่ไปอยู่ทราบ รวมทั้งแจ้งการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ทุกครั้ง เพื่อทางสถานทูต สถานกงสุลสามารถติดต่อท่านได้ในยามฉุกเฉิน

ขอขอบคุณข้อมูล tripperclub.com ภาพประกอบจากอิเตอร์เน็ต

 

Written by on

Written by on

วิธีป้องกันทาก

ทุกครั้งที่เราได้เดินทางไปเที่ยวป่าศัตรูตัวสำคัญของคุณคงหนีไม่พ้นตัวทากแน่นอน เราจะมีวิธีอย่างไรในการป้องกันตัวทากเหล่านี้ สำหรับการป้องกันทาก มีด้วยกันหลายรูปแบบคือ

1.ยาฉุนหรือยาเส้น ที่นำมาใช้มวนบุหรี่ วิธีใช้โดยการนำยาฉุนไปพรมด้วยน้ำจนชื้นหมาดๆ จากนั้นยัดลงในรองเท้า ไม่ต้องมากจนแน่น และในถุงเท้าก็ใส่เพียงนิดหน่อย ให้คลุมทั่วบริเวณผิวหนัง ตามซอกนิ้ว เท้าเท่านี้ก็พอ อีกวิธีหนึ่งก็คือ นำยาฉุนมาขยี้กับน้ำ แล้วนำน้ำที่ได้นี้มาทาตามเท้าให้ทั่วเป็นยากันทาก ได้ดีอีกวิธีหนึ่ง แต่อาจไม่ดีเท่าวิธีแรก เนื่องจากวิธีนี้กลิ่นจะไม่ฉุนแรง จัด และกลิ่นจะเจือจางได้ง่ายกว่า

2.สวมถุงเท้าหนาชนิดยาว หรือถุงเหยียบ ซึ่งเป็นถึงเท้าสำหรับนักฟุตบอล สวมทับขากางเกง ดึงสูงขึ้นมาเกือบถึงหัวเข่า วิธีนี้แม้จะไม่ได้ผลมากนัก แต่ก็เป็นวิธีการเบื้องต้นง่ายๆ และนักเดินป่ามักนิยมใช้กันมาก เพราะสะดวกคล่องตัว และกว่าที่ทากจะมุดเข้าไปในขากางเกงหรือถุงเท้าของเราได้ เราก็อาจมองเห็นก่อนแล้ว ใช้นิ้วมืดดีดมันกระเด็นทิ้งไป สุภาพสตรีบางท่าน ใช้วิธีสวมถุงน่องก่อน แล้วจึงสวมถึงเท้า ทับเข้าไปอีกที เนื่องจากถึงน่องจะมีเนื้อผ้าที่ละเอียดมาก แม้ทากจะมุดเข้าถึงเท้าหรือขากางเกงได้ ก็จะกัดหรือ ดูดเลือดเราไม่ได้

3.ยาฆ่าแมลง ชนิดสเปรย์ โดยใช้ฉีดที่เท้าหรือ รองเท้าก่อนเข้าป่า ก็เป็นวิธีการป้องกันทากได้อีกวิธีหนึ่ง ซึ่งสะดวกมาก แต่ต้องฉีดพ่นบ่อยๆ

4.สบู่คาร์บอลิก ที่ใช้ฟอกสุนัขเวลาอาบน้ำ ซึ่งจะมีกลิ่นแรงมาก เลือกเอาชนิดเหลว ทาให้ทั่วแข้งทั่วขา ทั้งสองข้างก่อนเข้าป่า แต่กลิ่นของมันอาจจะรบกวนระบบหายใจมากหน่อย

ขอขอบคุณข้อมูล นิตยสาร travel ภาพประกอบจากอิเตอร์เน็ต

 

Written by on

Written by on

เที่ยวป่าต้องเตรียมตัวอย่างไร

ป่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า ชมน้ำตก ปีนเขา ชมนกและอื่นๆ อีกมากมาย แต่ก่อนที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติในป่านั้น ต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อม ดังนี้

การเตรียมตัว

1. สถานที่ ต้องหาข้อมูลของสถานที่นั้นให้มากที่สุด ทั้งนี้เพื่อจะได้จัดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม เพราะแต่ละ สถานที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่แตกต่างกัน

2. การแต่งกาย การแต่งกายควรเป็นชุดที่ใส่สบาย คล่องตัว และใช้โทนสีที่กลมกลืนกับธรรมชาติ เช่น สีเขียว หรือ น้ำตาล หมวก นับว่ามีประโยชน์มากในการเดินป่า หมวกที่เลือกใช้จะเป็นหมวกปีกหรือหมวกแก็บก็ได้ เสื้อและกางเกง ควรใส่เสื้อแขนยาว เพื่อป้องกันแมลง หนามและแสงแดด เนื้อผ้าควรเป็นชนิดที่ซับน้ำ ได้ดี เพื่อจะได้ดูดซับเหงื่อช่วยระบายความร้อน กางเกงควรเป็นกางเกงที่สวมสบาย เสื้อผ้าควรแบ่งออกเป็น 2 ชุด คือ ชุดเดินป่า 1 ชุด และชุดนอน 1 ชุด นอกจากนั้นควรมีเสื้อแจ็กเก็ตอีก 1 ตัว และถุงเท้า เพราะในเวลากลางคืนในป่าจะมีอากาศเย็น รองเท้า เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ควรเป็นรองเท้าเดินป่าหุ้มส้นที่แข็งแรงและสวมใส่พอดี

3. อุปกรณ์เดินป่า เป้หลัง ควรเลือกชนิดที่เบา มีขนาดกะทัดรัดคล่องตัว เต็นท์ ถุงนอน เปลสนาม ไฟฉาย เสื้อ กันฝน มีดพก กระติกน้ำ หม้อสนาม ชุดยาสามัญ เชือก สมุดบันทึก ถุงพลาสติก ฯลฯ

4. การเดินป่า ก่อนออกเดินป่าควรสำรวจความเรียบร้อยของเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อม ดื่มน้ำให้อิ่ม และเติมกระติกน้ำให้เต็ม ศึกษาจุดเริ่มต้นและจุดหมายปลายทางให้เข้าใจ

การเดินป่ามีหลัก ดังนี้
  1. เดินอย่างออมกำลัง
  2. ฝึกสายตาให้คุ้นเคยกับสภาพป่า
  3. ระหว่างที่เดินไม่ควรส่งเสียงดังจนเกินไป
  4. พยายามเดินตามทางเดินเท้า
  5. พยายามปกปิดทุกส่วนของร่างกายให้มิดชิด
  6. เดินแถวเรียงเดี่ยว ควรทิ้งระยะห่างกันพอสมควร แต่ต้องให้อยู่ในสายตาของกลุ่มตลอด
  7. เดินทางด้วยความเร็วสม่ำเสมอ พักทุก ๆ ชั่วโมง ครั้งละประมาณ 5-10 นาที
  8. ไม่ควรแยกเดินไปคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ต้องมีเพื่อนไปด้วยทุกครั้ง

ขอขอบคุณข้อมูล บ้านคนรักป่า ภาพประกอบจากอิเตอร์เน็ต

 

Written by on

Written by on

เคล็ดลับการขับรถยนต์ท่องเที่ยว ตอนหน้าฝน

เชื่อนะคะว่ามีหลายท่านที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝน เนื่องจากในช่วงหน้าฝนนี่แหล่ะเป็นช่วงที่ ทุ่งหญ้า ป่าไม้ กำลังเขียวขจีเชียวค่ะ ดังนั้นหน้าฝนจึงเหมาะแก่ผู้ที่ชอบการท่องเที่ยวในเชิงธรรมชาติเป็นที่สุด แต่ในการเดินทางในช่วงนี้ก็ถือว่าเป็นช่วงที่ไม่ค่อยจะปลอดภัยต่อผู้ที่ใช้รถใช้ถนนมากนักค่ะ เราจึงมีเคล็ดลับง่ายๆมาฝาก ท่านที่ชอบการท่องเที่ยวในหน้าฝนค่ะ

  1. ขณะที่ฝนตกหรือหลังฝนหยุดตก บางจุดของผิวถนนมีน้ำท่วมขัง การขับต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้น การขับด้วยความเร็วสูงผ่านจุดที่มีน้ำขังเป็นอันตรายอย่างยิ่ง อาจทำให้รถยนต์แฉลบหรือเสียการทรงตัวได้ง่าย นอกจากนั้น อาจทำให้น้ำพุ่งกระจายขึ้นมาเต็มกระจกบังลมหน้า และไม่สามารถมองเห็นทางข้างหน้าได้ ซึ่งอันตรายมาก
  2. หากจุดที่มีน้ำท่วมขังอยู่ใกล้ทางเดินเท้า การใช้ความเร็วต่ำและความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นไปโดนคนเดินบนทางเท้า เป็นมารยาทที่ควรปฏิบัติ
  3. ขณะที่กำลังขับลุยน้ำ ควรใช้ความเร็วต่ำป้องกันไม่ให้น้ำเข้าสู่ระบบจุดระเบิดจนเครื่องยนต์ดับ และขับทิ้งระยะจากรถคันหน้าพอสมควร เมื่อต้องขับสวนกันควรชะลอความเร็ว โดยเฉพาะสวนกับรถยนต์ขนาดใหญ่ เพื่อป้องกันไม่ให้ระลอกคลื่นเข้าปะทะด้านหน้าจนทำให้เครื่องยนต์ดับ และถือเป็นมารยาทที่ควรปฏิบัติ
  4. หลังผ่านการลุยน้ำหรือผิวถนนที่มีน้ำท่วมขัง ประสิทธิภาพของระบบเบรกจะลดลงจากเดิม การแตะเบรกเบา ๆ ขณะขับ ช่วยไล่ความชื้นออกจากดิสก์หรือดรัมเบรก รวมถึงผ้าเบรก แต่ข้อควรระวัง คือ ระมัดระวังรถยนต์ที่ตามมาข้างหลัง ควรเลือกจังหวะเบรกให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจเกิดอุบัติเหตุได้
  5. เมื่อหมดหน้าฝน ควรเปลี่ยนน้ำมันเบรกใหม่ หรือเปลี่ยนทุก 1 ปี เพราะความชื้นที่เพิ่มขึ้น 1% โดยน้ำหนัก ทำให้จุดเดือดของน้ำมันเบรกลดลง 30-50 องศาเซลเซียส เสียค่าน้ำมันเบรก 100-200 บาท แต่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเบรกได้มาก

เคล็บลับที่ไม่ลับง่ายๆเช่นนี้จะช่วยให้การเดินทางท่องเที่ยวของท่าน เป็นการท่องเที่ยวที่ปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ แถมยังสนุกกับการเดินทางในทริปนี้เป็นที่สุดค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูล นิตยสาร travel ภาพประกอบจากอิเตอร์เน็ต

 

Written by on