Written by on
สุดสะเทือนใจ ลิงชิมแปนซีเลี้ยงตุ๊กตาดั่งลูก หลังถูกมนุษย์พรากลูกแท้ๆไปหมด
สัญชาติญาณความเป็นแม่นั้นมีอยู่ในสิ่งมีชีวิตแทบทุกชนิด และหากมีใครก็ตามพรากลูกน้อยไปจากแม่เหล่านั้น พวกเธอต้องประสบกับความทุกข์อย่างใหญ่หลวงอย่างแน่นอน
เช่นเดียวกับเจ้า Foxie อดีตลิงชิมแปนซีเพื่อการทดลงวัย 39 ปีตัวนี้ ตลอดชีวิตของมันเคยมีลูกมาแล้วทั้งหมด 4 ครั้ง แต่มันไม่เคยเห็นหน้าลูกตัวเองเลยซักครั้ง เพราะทุกครั้ง ลูกๆของมันจะถูกพาไปอยู่ที่อื่นตลอด
ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงรับตุ๊กตาสองตัวมาดูแลแทนลูก ไม่ว่ามันจะไปไหน มันไม่เคยปล่อยให้ “ลูกๆ” ของมันห่างตัวแม้แต่นิดเดียว
แม้มันจะถูกปลดประจำการมาแล้วกว่า 5 ปี แต่ฝันร้ายตลอดชีวิตการทดลองของมันยังไม่หายไปไหน มันยังคงแสดงอาการเครียดอยู่ตลอดมา รวมถึงการที่มันสูญเสียลูกไปหมดด้วย
เหล่าเจ้าหน้าที่ในห้องทดลองหวังว่า ตุ๊กตาสองตัวนี้ จะช่วยให้มันมีชีวิตที่สดใสได้อีกครั้ง
นาง Goodrich จากศูนย์อนุรักษ์สัตว์กล่าวว่า ตอนที่ Foxie คลอดลูกเสร็จ มันถูกวางยาสลบ และเมื่อมันตื่นขึ้นมา มันก็พบว่าลูกมันถูกขโมยหายไปแล้ว
มันเคยถูกทำแบบนี้ หลายต่อหลายครั้ง นั่นพอจะคาดเดาได้ว่า จิตใจความเป็นแม่ของมันนั้น พังทลายขนาดไหน
แต่แม้ Foxie จะผ่านการถูกทดลองโดยมนุษย์มาหลายต่อหลายอย่างในช่วง 10 กว่าปีที่มันอยู่ในแลป แต่มันก็ไม่เคยโกรธแค้นมนุษย์เลย มันคงยังแสดงท่าทีเป็นมิตรกับมนุษย์เสมอ
นาง Goodrich กล่าวอีกว่า หาก Foxie ได้รับโอกาศที่จะเป็นแม่ซักครั้ง มันจะต้องเป็นแม่ที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน
Foxie เกษียณจากห้องทดลองมาตั้งแต่ปี 2008 แล้ว และตอนนี้มันย้ายไปอยู่ในบ้านใหม่ที่ Washington กับตุ๊กตาลูกๆของมันอย่างสงบสุข
น่าสงสารจัง เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็คงแก้อะไรไม่ได้ ก็ได้แต่หวังว่าจากนี้ไป มันจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับ “ครอบครัว” ของมันนะ
Written by on
Written by on
ไอเดียเจ๋ง สาวชาวยูเครน ถักไหมพรมขนาดยักษ์ ให้กลายมาเป็นสิ่งของต่างๆ ได้อย่างลงตัว
Anna Mo สาวชาวยูเครน ได้ทำการถักผ้าห่มที่ทั้งแข็งแรงและใหญ่สุดๆ โดยมีตะเข็บที่หนาถึง 3 นิ้วกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นผ้าห่มที่ทนทานที่สุดเลยก็ว่าได้นะเนี่ย
โดยเธอได้ใช้เข็มที่มีความหนาถึง 2 นิ้ว ถักทั้งผ้าห่ม รวมไปถึงเสื้อกันหนาวและผ้าพันคอด้วย
ซึ่งผลงานทั้งหมดของเธอ Anna Mo ใช้ฝีมือในการถักล้วนๆ โดยแต่ละงานที่ออกมา มันเป็นงานถักที่ยอดเยี่ยม และไม่เหมือนใครจริงๆ
นอกจากนี้งานแต่ละชิ้นที่เธอได้สร้างขึ้นมา เธอได้ใช้เส้นด้ายทำจากขนแกะออสเตรเลีย 100 เปอร์เซนต์ ซึ่งด้ายจากขนแกะจะทำให้รู้สึกนุ่ม อุ่น และเบาสุดๆ แถมงานของเธอแต่ละชิ้นยังมีลักษณะอันโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย
เรียกได้ว่านอกจากจะเป็นไอเดียการถักที่แปลกไม่เหมือนใครแล้ว ผลงานของเธอแต่ละชิ้นยังมีความสวยงาม และประณีตมากๆ เลยทีเดียว ไอเดียสร้างสรรค์แบบนี้ ต้องขอกดไลค์รัวๆ ให้เลยครัช
ขอบคุณ ที่มา : boredpanda , catdumb
Written by on
Written by on
สำหรับการเริ่มต้นงานศิลปะชิ้นนี้ ฌอห์น ต้องบรรทุกอุปกรณ์วาดภาพมาบนแผ่นกระดานโต้คลื่น จากนั้นก็พายมาเรื่อย ๆ เพื่อหาทำเลรังสรรค์จิตรกรรมฝาผนังเหมาะ ๆ เมื่อเจอแล้วเขาก็เริ่มลงฝีไม้ลายมืออย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่การวาดภาพครั้งนี้ก็ต้องอาศัยทั้งทักษะ สมาธิ และการทรงตัวที่ดีเยี่ยม กว่าจะได้จิตรกรรมฝาผนังเป็นรูปหญิงสาวในอากัปกิริยางดงามอ่อนช้อย คล้ายเงือกสาวที่กำลังเริงร่ากับการเล่นน้ำอยู่
และบอกเลยว่านี่ไม่ใช่งานง่าย ๆ ถ้าทรงตัวไม่ดีมีหวังรูปคงออกมาเละเทะไปหมด แต่ศิลปินหนุ่มคนนี้ก็ทำออกมาได้สำเร็จอย่างงดงาม การันตีฝีมือและทักษะที่เทพมากจริง ๆ ซึ่งนอกจากผลงานบนผนังตึกร้างเหล่านี้แล้ว ฌอห์น โยโร ก็เป็นศิลปินที่ฝากฝีมือวาดภาพเหมือนของผู้หญิงให้เป็นที่เลื่องลือไว้ตามผืนผ้าใบและกระดานโต้คลื่นเก่า ๆ และใครอยากชื่นชมผลงานอื่น ๆ ของหนุ่มคนนี้สามารถเข้ามาดูได้ที่ HULA เลยค่ะ
ขอขอบคุณ ที่มา : hulaaa.com ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
Written by on
Written by on
อยากได้!! ถุงผ้าคลุมกระเป๋าเดินทางลายซูชิ เปลี่ยนกระเป๋าให้เป็นซูชิชิ้นเบิ้ม
สำหรับคนที่ต้องเดินทางบ่อยๆแล้ว การได้เห็นกระเป๋าถูกลำเลียงด้วยสายพานน่าจะให้อารมณ์ที่คล้ายกับสายพานในโรงงานใช่ไหมล่ะ แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว พวกเขามองว่าสายพานเหล่านั้นเปรียบเสมือนสายพานตามร้านซูชิเลยนะ
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. เว็บไซต์ rocketnews24 ได้รายงานว่าบริษัท Parco ในญี่ปุ่นได้เปิดตัวผ้าคลุมกระเป๋าลายซูชิ ที่มีทั้งลายทามาโกะ(ไข่หวาน), มากุโร่(ทูน่า), เอบิ(กุ้ง) และแซลมอน
และล่าสุดพวกเขาก็เพิ่งเปิดตัวอีก 3 ลายใหม่อย่างทาโกะ(ปลาหมึก), อิกุระ(ไข่ปลาแซลมอน) และซาบะ(ปลาแมคเคอเรล) เห็นแล้วน่ากิน เอ้ย! น่าใช้จริงๆนะเนี๊ยะ
ตัวผ้าคลุมจะทำมาจากผ้าไนลอนอย่างดี สามารถช่วยคลุมกระเป๋าเดินทางของเราไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนได้ด้วย ผ้าคลุมนี้เริ่มวางขายแล้วตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย. ที่ห้างสรรพสินค้าในชิบูย่าและฟุกุโอกะ โดยมีราคาอยู่ที่ 3,024 เย็น หรือประมาณ 800 กว่าบาท หากใครมีเพื่อนๆหรือญาติเดินทางไปที่นั่น ก็ลองฝากซื้อกันได้นะจ๊ะ
ขอบคุณ ที่มา : en.rocketnews24
Written by on
Written by on
10 อันดับบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก ผู้ที่มีสายตาของชาวโลกจับจ้องอยู่แทบทุกฝีก้าว
คนสำคัญระดับโลกผู้ที่อยู่ในสายตาของประชาชนทั่วทั้งโลกนั่นหมายความว่า เขาเหล่านั้นต้องมีคุณสมบัติของความดีและมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ตรึงใจคนส่วนมากในโลกนี้ได้ ซึ่งการเป็นผู้ทรงอิทธิพลของโลกก็แทบไม่มีข้อจำกัดหรือนิยามใด ๆ เลย เพียงแค่มีอะไรบางอย่างที่อยู่ในกระแสของความสนใจเท่านั้นก็นับเป็นผู้ทรงอิทธิพลของโลกแล้ว ดังเช่นที่ Business Insider เขาจัดอันดับผู้ทรงอิทธิพลของโลกมา ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่ามีความหลากหลายในสถานะและอายุมาก ๆ โดยเราก็ได้คัดผู้ทรงอิทธิพลของโลก 10 ท่านมาให้ชมกันก่อน มาดูกันค่ะว่าอะไรที่ทำให้เขาเหล่านี้ถูกขนานนามว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลของโลกกัน
1. เจ้าชายจอร์จ แห่งเคมบริดจ์
เจ้าชายจอร์จ แห่งเคมบริดจ์ ถือเป็นสร้อยทองคล้องใจแห่งราชวงศ์อังกฤษ อีกทั้งยังเป็นเบบี๋ที่คนทั้งโลกรอคอยการประสูตินี้อย่างใจจดใจจ่อ และด้วยความน่ารักและแฟชั่นในแบบเด็ก ๆ ที่น่าเอ็นดูขาดใจของเจ้าชายตัวจิ๋วท่านนี้ ก็ต้องถือว่าเจ้าชายจอร์จไม่ทำให้ประชาชนผิดหวังเลยสักนิด
2. มะลาละห์ ยูซัฟซัย
นักต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพทางการศึกษาของเด็กผู้หญิงในปากีสถานที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยวัยเพียง 17 ปี มะลาละห์ ยูซัฟซัย ก็ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ จากวีรกรรมการต่อสู้เพื่อความถูกต้องของการศึกษาของเด็ก ๆ และความกล้าหาญที่จะต่อกรกับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงเพื่อให้เด็กผู้หญิงในประเทศของเธอได้รับสิทธิเสรีภาพทางการศึกษาที่เท่าเทียมกัน ทุกอย่างที่เธอทำนี้ส่งผลให้เธอเป็นฮีโร่หญิงคนหนึ่งของโลก และกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลของโลกคนหนึ่งที่น่าชื่มชมมาก ๆ
3. เทย์เลอร์ สวิฟต์
ไม่เพียงแต่เป็นสาวน้อยนักดนตรีที่มีผลงานและยอดขายอัลบั้มอันโดดเด่นเท่านั้น ทว่าตัวตนและคาแรคเตอร์ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยบรรดาแฟนคลับต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เทย์เลอร์ สวิฟต์ เป็นนักร้องซูเปอร์สตาร์ที่ไม่ได้มีอีโก้เลยสักนิด แถมยังเป็นกันเองและดูจริงใจต่อเพื่อนร่วมโลกมาก ๆ เชียวล่ะ ด้วยเหตุผลนี้เธอจึงเป็นนักร้องในดวงใจใครหลายคนและเป็นผู้ทรงอิทธิพลของโลกในวัยเพียง 25 ปี เท่านั้น เจ๋งไม่เบาเลยนะเนี่ย
4. มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก
เพราะคน ๆ นี้เราจึงมีโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook ไว้เล่นกันอย่างสนุกสนาน อีกทั้งยังเป็นช่องทางเชื่อมต่อเพื่อนเก่าหรือทำธุรกิจเล็ก ๆ ผ่าน Faecbook ได้ง่าย ๆ ด้วยเหตุผลนี้จึงมีผู้ใช้ Facebook นับพันล้านคนทั่วโลก สร้างรายได้ให้มาร์คจนรวยติด 1 ใน 3 บุคคลที่ทำรายได้สูงสุดที่คำนวณแล้วไม่น่าจะใช้ได้หมดตลอดชีวิตของเขา แบบนี้จะไม่ให้ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เป็นผู้ทรงอิทธิพลของโลกได้ยังไง
5. คิม จอง อึน
ผู้นำเกาหลีเหนือผู้ที่ขึ้นชื่อว่ามีความเด็ดขาดไม่แพ้ผู้นำเกาหลีเหนือคนก่อน ซึ่งนอกจากเขาจะสืบทอดการครองบัลลังก์ผู้นำประเทศจากพ่อแล้ว คิม จอง อึน ยังคงมุ่งมั่นสานต่อการทดลองขีปนาวุธที่พ่อของเขาตั้งใจสร้างมันขึ้นมาด้วย และแม้ว่าภาพลักษณ์ของท่านคิมจะไม่น่าปลื้มสักเท่าไร แต่นาทีนี้คงไม่มีใครปฏิเสธอำนาจของเขาได้จริง ๆ
6. เจ เค โรว์ลิง
นักเขียนที่ขึ้นแท่นผู้มีรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ เจ เค โรว์ลิง เป็นผู้สร้างนวนิยายเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ และส่งให้เรื่องนี้กลายเป็นภาพยนตร์แนวแฟนตาซีมหากาพย์ที่ดังเป็นพลุแตก เรียกได้ว่าลูกเล็กเด็กแดงจนกระทั่งผู้ใหญ่ต้องเคยได้ดูแฮร์รี่ พอตเตอร์กันสักภาคแน่ ๆ และนี่แหละค่ะอิทธิพลของเจ เค โรว์ลิงจากปลายปากกาของเธอเอง
7. แจ็ค หม่า
ประธานกรรมการบริหารแห่ง Alibaba Group ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ และหากใครได้ทราบเบื้องลึกเบื้องหลังของผู้ชายคนนี้แล้วคงจะนึกอยากปรบมือให้กับความมุ่งมั่นและความพยายามของเขาจริง ๆ เพราะรู้เลยว่า การขึ้นแท่นมาอยู่ในจุดที่รวยเป็นอันดับสองของประเทศจีนของเขาไม่ใช่เรื่องโชคช่วยหรือความบังเอิญจริง ๆ
8. บารัค โอบามา
เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักผู้ชายคนนี้แน่ ๆ เพราะเขาเป็นถึงประธานาธิบดีของชาติมหาอำนาจอย่างอเมริกาเชียวล่ะ แถมยังเป็นชาวแอฟริกันอเมริกันคนแรกที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ และด้วยประโยคเด็ดของเขา รวมทั้งความตั้งใจจริงที่ดูแลประชาชนชาวอเมริกา ก็ทำให้บารัค โอบามา ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐมาแล้ว 2 สมัย และยังคงมุ่งมั่นจะเปลี่ยนแปลงอเมริกาให้ดีขึ้นต่อไป ครองใจชาวอเมริกันและคนทั้งโลกได้ไม่ยาก
9. บิล เกตส์
นับว่า บิล เกตส์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โลกคอมพิวเตอร์ถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไมโครซอฟท์ที่เราใช้กันอย่างแพร่หลายก็เกิดขึ้นจากมันสมองและสองมือของผู้ชายคนนี้นี่แหละค่ะ อีกทั้ง บิล เกตส์ ยังมีความเอื้อเฟื้อต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเป็นอย่างมาก โดยเขาได้ก่อตั้งมูลนิธิ The Bill & Melinda Gates Foundation ซึ่งเป็นมูลนิธิที่มีกำลังเงินในการช่วยเหลือผู้อื่นค่อนข้างสูง แหม ตัวเองรวยติดอันดับโลกแล้วยังส่งมูลนิธิให้อู้ฟู่ไปพร้อม ๆ กันด้วยนะ นี่ล่ะที่เรียกว่า มีแล้วต้องแบ่งปันตัวจริงเสียงจริง
10. วอร์เรน บัฟเฟตต์
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่และซีอีโอของบริษัทเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ เขามีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องการลุงทุนและการวางแผนธุรกิจอย่างเฉียบขาด ซึ่งการลงทุนของบัฟเฟตต์ก็เน้นความคุ้มค่าและความเป็นอยู่อย่างพอเพียง นอกจากนี้เจ้าพ่อแห่งโอมาฮายังขึ้นชื่อว่าเป็นนักธุรกิจผู้ใจบุญมาก ๆ จนถูกยกย่องให้เป็นผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของโลก
และนี่คือ 10 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกที่เราได้หยิบมาฝากคุณ ๆ กัน เห็นโปรไฟล์ของแต่ละคนแล้วต้องน้อมรับจริง ๆ ว่าเหมาะแล้วกับตำแหน่งนี้
Written by on
Written by on
โดยอาคารแห่งนี้ถูกออกแบบให้มีลักษณะเหมือนสามเหลี่ยมมุมแหลมทรงคว่ำ ตัวอาคารบุด้วยกระจกขัดมัน นอกจากนี้ ายในยังมีสวนไล่ระดับตามทางเดิน และส่วนแหลมที่ยืนออกมาทางด้านนอกก็ยังถูกใช้เป็นหลังคาให้กับสถานีเติมน้ำมัน ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ ายในด้านที่เชื่อมต่อกับปั๊มน้ำมันนั้นยังถูกซ่อนด้วยวิธีอันแยบยลเพื่อให้ผู้ใช้บริการได้สัมผัสกับวิวด้านนอกและสวน ายในได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวว่าการพักผ่อนหย่อนใจในครั้งนี้จะถูกบั่นทอนด้วย าพรถที่แวะเวียนเข้ามาเติมน้ำมันอย่างแน่นอน
ส่วน ายในของร้าน จะถูกไล่ระดับขึ้นไปทางด้านบนที่มีสวนไล่ระดับ ทั้งนี้ทุกส่วนของอาคารยังถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันเสียงรบกวนจากด้านนอกอีกด้วย ถือเป็นการออกแบบที่ทั้งพร้อมสรรพด้วยประโยชน์ใช้สอย และรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วยเลยใช่ไหมล่ะ หากได้มีโอกาสไปประเทศจอร์เจียก็อย่าลืมแวะเวียนไปเยี่ยมชมความงดงามกันได้นะ
ขอขอบคุณ ที่มา : kapook ภาพจาก Courtesy of Giorgi Khmaladze
Written by on
Written by on
วันนี้ (6 มิถุนายน 2558) สำนักข่าวเอพี มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ประจำท่าเทียบเรือของเมืองแอสโทเรีย ในรัฐโอเรกอน สหรัฐฯ ได้นำหุ่นวาฬเพชฌฆาต ขนาด 32 ฟุต มาขับไล่ฝูงสิงโตทะเลกว่าร้อยตัวที่เข้ายึดบริเวณท่าเทียบเรือดังกล่าว หลังสิงโตทะเลเหล่านี้ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถนำเรือมาจอดเทียบท่าได้ ส่งผลกระทบให้การค้าขายและการสัญจรยังสถานที่ดังกล่าวซบเซา
สำหรับหุ่นวาฬเพชฌฆาตที่ทำขึ้นจากไฟเบอร์กลาสนี้ เจ้าหน้าที่ได้ขอยืมมาจากบริษัทท่องเที่ยวในรัฐวอชิงตัน และได้ดำเนินการนำหุ่นวาฬเพชฌฆาตจำลองลงมาว่ายในน้ำบริเวณท่าเทียบเรือ หวังขู่ให้กลุ่มสิงโตทะเลซึ่งเป็นเหยื่ออันโอชะของวาฬเพชฌฆาตหวาดกลัวจนอพยพไปจากพื้นที่ดังกล่าว แต่ดูเหมือนความพยายามครั้งแรกของพวกเขาจะยังไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ถึงอย่างนั้นทางผู้บริหารท่าเทียบเรือจะยังยืนกรานที่จะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ และเตรียมที่จะลองใช้วิธีดังกล่าวอีกครั้ง
ทั้งนี้สิงโตทะเลมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามแนวชายฝั่งตะวันตก เนื่องจากพวกมันอยู่ภายใต้ความคุ้มครองของกฎหมายรัฐบาลกลาง โดยสัตว์เหล่านี้ได้อพยพมาอาศัยอยู่ยังทิศเหนือของโอเรกอนและยึดพื้นที่ดังกล่าวเป็นสถานที่อาบแดด เนื่องจากอุณหภูมิของน้ำนอกชายฝั่งแคลิฟอร์เนียเพิ่มสูงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ขอขอบคุณ ที่มา : kapook ภาพจาก Twitter @Bessex_Joshua
Written by on