ไมเคิล ฟาราเดย์ (Michael Faraday)

ไมเคิล ฟาราเดย์ (Michael Faraday)

ไมเคิล ฟาราเดย์ (Michael Faraday) นักเคมีและนักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ ผู้ได้รับการยกย่องให้เป็น "บิดาแห่งไฟฟ้า" (Father of Electricity) เกิดเมื่อวันที่ 22 กันยายน ค.ศ. 1791 ในครอบครัวที่ยากจนจึงได้รับการศึกษาจากโรงเรียนน้อย แต่เขาเป็นคนฉลาด ขณะที่เขาเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์เขาชอบอ่านหนังสือพิมพ์ และบันทึกไว้และใช้เงินที่มีอยู่หาซื้อหนังสือวิทยาศาสตร์เช่นอ่านตำราเคมี เขาอ่านหนังสือทุกเล่มที่ตกถึงมือเขา เขาซื้อวัสดุมาทำการทดลอง ได้ไปฟังคำปาฐกถาของ เซอร์ ฮัมฟรี เดวี ผู้ประดิษฐ์ตะเกียงนิรภัยและเขาก็ได้บันทึกไว้ทุกครั้ง ด้วยความสามารถของเขานี้เอง จึงได้ไปประจำอยู่ในห้องทดลองของเดวี เมื่ออายได้ 21 ปีก็ได้ท่องเที่ยวไปกับเดวีในประเทศ ฝรั่งเศส อิตาลีและได้พบกับ เคานต์อเลกซานโดรวอลตา ผู้ประดิษฐ์เครื่องกำเนิดไฟฟ้าวอลตา เมื่อกลับมาอังกฤษเขาก็ได้ กลายเป็นผู้แสดงปาฐกถาในปี ค.ศ. 1816 งานด้านวิทยาศาสตร์ของ ฟาราเดย์ ก็ไม่น้อยหน้า เซอร์ ฮัมฟรี เดวี เหมือนกัน เขาได้เป็นถึงผู้อำนวยการห้องทดลองที่ราชวิทยาสถาน

ฟาราเดย์เป็นผู้ให้คำอธิบาย อำนาจการเหนี่ยวนำของแม่เหล็กไฟฟ้า เขาเป็นผู้ทดลองหาแนวแรงแม่เหล็กโดยใช้ผงตะไบเหล็ก เขาเป็นผู้ให้หลักที่ว่า กระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นจากตัวนำตัดผ่านเส้นแรงแม่เหล็กหรือพูดง่ายๆว่าแม่เหล็กก็ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าได้ เขาจึงเป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องกำเนิดกระแสไฟฟ้าที่เรียกว่า"ไดนาโม"ขึ้น ฟาราเดย์ได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 1867 ในห้องทำงานของเขาที่แฮมตันคอร์ด

ต่อมาได้มีการเรียกหน่วยวิทยาศาสตร์ของความจุซึ่งเป็นความสามารถในการเก็บประจุไฟฟ้าไว้ได้ว่า "ฟาราด" (Farad) เพื่อเป็นเกียรติแก่ไมเคิล ฟาราเดย์

ผลงานการค้นพบ

  • ค้นพบสมบัติของแม่เหล็กที่ทำให้เกิดไฟฟ้า
  • ประดิษฐ์เครื่องกำเนิดไฟฟ้าหรือ ไดนาโม (Dynamo) ในปี 1821
  • นำเหล็กมาผสมกับนิกเกิล เรียกว่า สแตนเลส ซึ่งมีคุณสมบัติที่เหนียว และไม่เป็นสนิม
  • พบสารประกอบเบนซีน (Benzene)
  • บัญญัติศัพท์ทางวิทยาศาสตร์หลายคำเช่น ไออน(Ion) = ประจุ, อีเล็กโทรด (Electrode) = ขั้วไฟฟ้า ,คาโทด (Cathode) = ขั้วลบ, แอโนด (Anode) = ขั้วบวก

ขอขอบคุณ ที่มา : sanook.com ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

airban-300x250
0
Shares