กำเนิดผ้าไหมและเทพธิดาแห่งผืนผ้า

กำเนิดผ้าไหมและเทพธิดาแห่งผืนผ้า

เมื่อหลายพันปีก่อนชาวจีนได้ค้นพบวิธีการทอผ้าไหมขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก เลยมีคำถามว่าใครเป็นคนคิด และคิดขึ้นมาได้อย่างไร ตำนานนี้เป็นเรื่องที่ชาวจีนเขาภูมิใจกันมากๆ เชียวล่ะ

ตำนานการค้นพบผ้าไหมของจีนมีอยู่หลายเรื่อง แต่เรื่องที่ชาวจีนภูมิใจเสนอมากที่สุดคือเรื่องของ "เทพธิดาไหม" (Godness of Sikworm) ว่ากันว่าหลังจากที่จักรพรรดิฮวงตี่ทรงปราบข้าศึกที่มารุกรานได้อย่างราบคาบแล้ว เทพธิดาไหมบนแดนสวรรค์ก็ส่งเส้นไหมสีขาวบริสุทธิ์ลงมาถวายเพื่อร่วมยินดีกับพระองค์พร้อมทั้งแนะนำวิธีทอผ้าให้เสร็จสรรพ ต่อมาเส้นไหมที่เทพธิดาประทานให้ก็ถูกเอาไปทอเป็นผ้าไหมงามวิจิตร และการทอไหมก็กลายเป็นสมบัติของชนชาติจีนนับตั้งแต่นั้นมา จากเรื่องนี้คนที่คิดค้นวิธีทอผ้าเป็นคนแรกก็คือนางฟ้า ไม่ใช่คนเดินดินกินข้าวแกงอย่างเรา ผ้าไหมก้เลยยิ่งดูเป็นของสูงค่าขึ้นไปอีก

อีกตำนานหนึ่งเล่าว่า เทพธิดาแห่งไหมที่แท้จริงไม่ใช่นางฟ้านางสวรรค์ที่ไหน แต่เป็นพระนางไล้ซู พระมเหสีของจักรพรรดิฮวงตี่ต่างหากล่ะ เรื่องเกิดขึ้นตอนที่พระมเหสีทรงประชวรนางกำนัลที่อยากเอาใจพระนางบังเอิญเข้าไปในสวนหม่อน แล้วพบผลไม้สีขาวรูปร่างแปลกตาเข้าก็เลยตัดมาให้ทรงเสวย แต่ผลไม้นี้เหนียวมาก พระนางกัดเท่าไรก็กัดไม่เข้า จึงรับสั่งให้เอาผลไม้นี้ไปต้ม จากนั้นก็พบว่าหลังจากถูกต้มในน้ำเดือด ผลไม้สีขาวนั้นกลับมีเส้นใยสีขาวละเอียดเป็นเงางามยืดยาวออกมา ที่แท้ผลไม้ที่ว่าก็คือรังไหมนั่นเอง จากการค้นพบนี้พระนางก็ได้ทรงต่อยอดด้วยการเอาเส้นไหมไปถักทอจนได้ผืนผ้าที่สวยงาม หลังจากนั้นจึงได้ทรงเอาความรู้นี้ไปสอนราษฎรให้รู้จักการปลูกหม่อน เลี้ยงไหมและทอผ้าไหม ชาวจีนทั้งประเทศจึงสดุดีพระนางไล้ซู ให้เป็น "เทพธิดาไหม" ไปในที่สุด

แต่ในตำราโบราณของจีนยืนยันว่าผู้ค้นพบเส้นไหมเป็นคนแรกไม่ใช่พระนางไล้ซู แต่เป็นพระนางง่วนฮุย มเหสีของอีกองค์หนึ่งของจักรพรรดิฮวงตี่ โดยพระนางทรงเสด็จดำเนินเล่นในสวนแล้วทรงทอดพระเนตรเห็นตัวหนอนหลายตัวเกาะอยู่ที่ต้นหม่อน บางตัวก็พ่นใยออกมาพันรอบตัวจึงทรงดำริว่า ถ้าเอาเส้นไหมนี้มาทอเป็นผ้าก็คงจะได้ผ้าที่สวยงาม เนื้อดีกว่าผ้าป่านผ้าปอที่ใช้กันอยู่ จากนั้นพระนางง่วนฮุยก็ริเริ่มการเลี้ยงไหม สาวไหม และทอผ้า จนได้รับฉายาว่าเป็น "นางพญาแห่งการหัตถกรรมทำไหม" แต่นักประวัติศาสตร์เองก็ยังระบุชัดไม่ได้ว่าระหว่างพระมเหสีทั้งสอง ใครกันแน่ที่เป็นต้นกำเนิดผ้าไหมตัวจริง

ความสับสนของกำเนิดผ้าไหมยังไม่จบแค่นี้ เพราะคนจีนยังมีนิทานเกี่ยวกับตำนานผ้าไหมอีกเรื่องหนึ่งที่บางคนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง นิทานเรื่องนี้คล้ายๆ กับตำนานเรื่องเมืองลับแลหรือเมืองแม่ม่ายของไทยเรา เรื่องราวมีอยู่ว่ากาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในเมืองหังโจว มีเด็กหญิงกำพร้าแม่คนหนึ่งชื่อว่าอาเจียวเป็นเด็กกำพร้าแม่ส่วนพ่อของอาเจียวนั้นแต่งงานใหม่กับสาวสวยคนหนึ่ง เรื่องก็เลยดำเนินไปตามกติกาสากลที่แม่เลี้ยงจะต้องรังแกลูกเลี้ยง แม่เลี้ยงนางนี้เกลียดอาเจียวกับน้องชายเอามากๆ เมื่อไรที่พ่อของเด็กทั้งสองคนเผลอ นางก็จะเล่นบทแม่เลี้ยงใจร้ายขึ้นมาทันที

วันหนึ่งในฤดูหนาว แม่เลี้ยงสั่งให้อาเจียวออกไปเก็บหญ้ามาเป็นเชื้อไฟและกำชับว่าถ้าไม่ได้หญ้ากลับมาก็อย่าได้กลับมาบ้านเป็นอันขาด แต่ตอนนั้นมีน้ำค้างแข็งอยู่ทั่วทุกแห่ง เด็กน้อยจึงหาหญ้าแห้งไม่ได้เลย สุดท้ายเธอก็ไปนั่งร้องไห้อยู่ที่ข้างลำธารแห่งหนึ่ง และแล้วเด็กน้อยก็ได้ยินเสียงเจ้านกน้อยร้องว่า "ในถ้ำมีหญ้าแห้ง" เมื่อมองตามนกไป อาเจียวก็เห็นปากถ้ำอยู่ไม่ไกล จึงตัดสินใจเดินตามเสียงนกเข้าไปในถ้ำแห่งนั้น

เมื่อเข้าไปในถ้ำนั้น อาเจียวก็ได้พบเมืองที่สวยงามราวกับสวรรค์บนดิน ทุกคนในเมืองนี้มีเมตตาต่อเธอมาก เธอจึงพักอยู่ที่นี่อย่างมีความสุข ที่สำคัญอาเจียวสังเกตว่าเสื้อผ้าของคนในเมืองนี้ทำจากผ้าที่นุ่มนวล มีประกายเงางาม ผิดจากผ้าทั่วๆ ไปมาก หญิงเจ้าของบ้านที่ให้เธอพักอยู่เห็นอาเจียวสนใจเลยสอนให้เธอปลูกหม่อน เลี้ยงตัวไหม และเอามาทอเป็นผ้าไหมสวยงามอย่างที่คนเมืองนี้ใส่กัน

แม้ว่าอาเจียวจะอยู่ที่นี่อย่างมีความสุข แต่เธอก็ยังเป็นห่วงน้องชายที่ต้องตกอยู่ในกำมือแม่เลี้ยงใจร้าย เธอจึงคิดจะไปพาน้องชายมาอยู่ด้วย อาเจียวออกจากถ้ำแห่งนั้นโดยเอาเมล็ดต้นหม่อนกับไข่ตัวไหมโรยมาตามทางเดินเพื่อให้เป็นเครื่องหมาย เมื่อไปถึงบ้าน อาเจียวก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าพ่อของเธอกลายเป็นคนแก่ไปเสียแล้ว ส่วนน้องชายก็โตเป็นหนุ่ม เวลาเพียงสามเดือนในถ้ำแห่งนั้นที่จริงแล้วเป็นเวลาถึงสิบห้าปีในโลกภายนอก อาเจียวจึงรีบกลับไปที่ถ้ำทันที แต่ปากถ้ำกลับหายไปเสียแล้ว หลังจากนั้นอาเจียวจึงได้เอาวิชาการเลี้ยงตัวไหมมาสอนชาวบ้าน และเป็นจุดเริ่มต้นของการทอผ้าไหมในประเทศจีน

ขอขอบคุณ ที่มา : spicy ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

 

airban-300x250
0
Shares