เรื่องน่ารู้ก่อนสครับผิว

เรื่องน่ารู้ก่อนสครับผิว

การทำสครับมีวัตถุประสงค์เพื่อการทำความสะอาดด้วยวิธีการขัดหรือการถู สครับช่วยในการขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันตามรูขุมขนรวมทั้งเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพหรือเซลล์ผิวหนังชั้นนอกที่ตายแล้วที่เกาะอยู่บนบริเวณผิวหนังชั้นนอกให้สามารถหลุดออกได้เร็วขึ้น

ดังนั้นสครับจึงมีประโยชน์ในการช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกได้ง่ายขึ้น และให้โอกาสเผยเซลล์ผิวใหม่ที่ดูสดใสมีชีวิตชีวากว่าเซลล์ผิวเก่าสภาพเสื่อมที่ดูหมองคล้ำ มาดูเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสครับผิวกันค่ะ

การสครับผิวควรทำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ เพื่อให้กระบวนการผลิตเซลล์ผิวใหม่แทนเซลล์ผิวเก่าที่สูญเสียไป ไม่ควรทำมากหรือน้อยไปกว่านี้

เวลากลางคืนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการสครับผิวหน้ามากที่สุดเพราะในขณะที่หลับผิวจะได้รับการซ่อมแซมเป็นช่วงดีที่สุด อีกทั้งยังช่วยฟื้นตัวจากการสูญเสียน้ำมันหลังจากการสครับ

หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์สครับผิวที่มีเนื้อขรุขระ และหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมสกัดจากพืชประเภทข้าวจะดีกว่า เพราะส่วนผสมในรำข้าวจะช่วยย่อยสลายเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพอย่างอ่อนละมุน ในขณะเดียวกันก็จะช่วยเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผิวจึงเนียนใสมีสุขภาพดี และไม่ขีดข่วน หรือทำอันตรายต่อผิว

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สครับผิวประเภทใดประเภทหนึ่งเท่านั้น ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเคมีควบคู่กันไป เพราะอาจจะทำให้เกิดการขจัดเซลล์ผิวในปริมาณที่มากเกินไป

คนที่มีปัญหาผิวเป็นสิวควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สครับที่ออกแบบโดยเฉพาะสำหรับผิวเป็นสิว และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดไกรโคลิค (AHA) หรือซาลิไซลิค (BHA) ซึ่งสารทั้ง 2 ชนิดนี้ยังช่วยกระตุ้นกระบวนการผลิตคอลลาเจน รวมถึงกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่และชะลอกระบวนการผลิตเม็ดสีผิวอีกด้วย

หลังจากสครับผิวแล้วควรอยู่ในที่ร่มไม่ควรอยู่ในที่ๆ มีแดดจัดเช่น ชายทะเล อย่างน้อย 48 ชั่วโมง

หลังจากสครับผิวแล้วควรทาครีมกันแดดที่มีตั้งแต่ SPF 15 ขึ้นไป

การเลือกใช้บริการสครับผิวตามสถานความงามควรงดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวอย่างน้อย 2 วัน และควรอยู่ในที่ร่มเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์

ขอขอบคุณ นิตยสารเรื่องผู้หญิง ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

airban-300x250
0
Shares