นำเสนอสาระน่ารู้ บทความดีๆ เกี่ยวกับพัฒนาการของทารกตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 1 ปี เพื่อคุณพ่อคุณแม่จะได้เตรียมพร้อมรับมือกับพัฒนาการของลูกน้อยได้อย่างชาญฉลาด และมีสติ พร้อมที่จะแก้ไขและส่งเสริมให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่ดีสมวัย และสามารถเจริญเติบโตต่อไปได้อย่างมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ร่าเริงสดใส ทาง Pstip หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสาระความรู้ต่างๆ ในหมวดนี้จะสามารถเป็นแนวทางที่ดี สำหรับคุณพ่อคุณแม่คนใหม่นำไปปฏิบัติเพื่อลูกน้อยที่คุณรักได้อีกทางหนึ่งค่ะ
Written by on
ผลเสียของการทานนมผงสลับกับนมแม่
สมัยนี้คุณแม่ส่วนใหญ่ จะรับบทบาทเป็น Working Mum คือทำหน้าที่แม่ด้วย แต่ก็ต้องทำงานนอกบ้านควบคู่ไปด้วย การให้ลูกทานนมแม่ตลอดจึงเป็นเรื่องยากมากๆ เลยค่ะ เพราะเหตุนี้จึงจำเป็นต้องให้ทารกทานนมผงสลับกันบ้าง ซึ่งคุณสามารถทำได้ แต่ต้องระวังเรื่องของผลเสียที่ตามมาด้วยนะคะ เพราะนมแม่กับนมผงมีองค์ประกอบที่ต่างกันพอสมควร อาจมีผลเสียตามมาในเรื่องของการขับถ่ายและมีอาการท้องอืด แถมยังทำให้เด็กสับสนในการดูดขวดนมกับนมแม่ ทำให้เด็กทานนมได้น้อยลง เพราะปรับตัวไม่ได้
ทางที่ดี ถ้าคุณสะดวกกาย สะดวกใจ แนะนำว่าควรให้นมแม่อย่างเดียวจะดีที่สุดค่ะ
ขอขอบคุณ นิตยสารเรื่องผู้หญิง ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
Written by on
Written by on
พ่อเครียด..ลูกร้อง
การร้อง 3 เดือนของลูกอ่อน หรือที่เรียกว่าโคลิกนั้น หลายการศึกษาพบว่าความเครียดของแม่อาจส่งผลต่อการร้องของลูก แต่จริงๆ แล้ว Dr.Mijke P.van den Berg นักจิตวิทยาแห่งศูนย์การแพทย์อีรามุส ที่ร็อตเตอร์ดัม พบว่าความเครียดของคุณพ่อก็ส่งผลต่อลูกเช่นกัน
จากการศึกษาพ่อแม่ของทารกอายุ 2 เดือน จำนวนกว่า 4,426 คน ปรากฏว่ามีทารกเพียง 2.5% ที่มีอาการโคลิก หรือร้องไห้ประมาณ 3 ชั่วโมงต่อวัน และมากกว่า 3 วันต่ออาทิตย์ แต่จากทารกที่มีอาการโคลิก มีพ่อแม่กว่า 30% ที่มีอาการเครียดและซึมเศร้า และหากคุณพ่อมีความเครียด ลูกก็มีโอกาสร้องโคลิกมากขึ้นถึง 2 เท่า
คุณพ่อก็มีความสำคัญไม่แพ้คุณแม่ในการเลี้ยงดูลูกเลยค่ะ เพราะฉะนั้นทั้งคู่คงต้องช่วยดูแลกันและกันให้ดีนะคะ
ขอขอบคุณ นิตยสาร Modern Mom ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
Written by on
Written by on
สำรวจสาเหตุลูกไม่ยอมดูดนม
เป็นปัญหาหนึ่งที่แม่ๆ กังวลกันมากเชียว ทั้งที่มีประโยชน์กับลูกมหาศาล แต่เจ้าตัวเล็กก็ยังถอยห่าง เพราะอะไรกันนะ เรามีสาเหตุและวิธีแก้มาฝากกันค่ะ
เอาใจช่วยแม่ๆ ให้ลูกกลับมาดูดนมแม่เหมือนเดิมค่ะ
ขอขอบคุณ นิตยสาร Modern Mom ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
Written by on
Written by on
เรื่องต้องรู้ก่อนป้อนยาลูก
แค่ลูกต้องกินยาก็เสียใจมากพอแล้ว ตอนป้อนยายิ่งเข้าไปใหญ่ หากคุณรู้หลักการป้อนที่ถูกต้อง ก็หมดกังวลเรื่องนี้ไปได้เลย
นอกจากจะช่วยให้คุณป้อนยาได้ง่ายขึ้นแล้วยังปลอดภัยกับลูกด้วย
ขอขอบคุณ นิตยสาร Modern Mom ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
Written by on
Written by on
อาการตาแฉะในเด็กแรกเกิด
เด็กแรกเกิดเป็นวัยที่บอบบางมากและมักจะประสบกับปัญหาสุขภาพหลายๆ อย่าง คุณพ่อคุณแม่จึงต้องดูแลลูกน้อยเป็นอย่างดี ใส่ใจเป็นพิเศษกับทุกรายละเอียด วันนี้เราไปติดตามปัญหาหนึ่ง ซึ่งมักเกิดกับเด็กแรกเกิดบ่อยๆ ปัญหาที่ว่านั้นคืออาการตาแฉะในเด็กแรกเกิด
ปัญหาตาแฉะในเด็กแรกเกิด จะเกิดขึ้นเป็นประจำ และมักจะเป็นๆ หายๆ เพราะนอกจากเรื่องการรักษาความสะอาดแล้ว ยังมีสาเหตุมาจากภาวะท่อน้ำตาอุดตันในเด็ก ซึ่งทำให้มีอาการตาแฉะ และมีขี้ตาเหนียวสีเขียวได้
การใช้ยาหยอดตาหรือกินยาฆ่าเชื้อ ไม่สามารถรักษาอาการตาแฉะให้หายขาดได้ แต่เป็นเพียงแค่การป้องกันไม่ให้มีขี้ตามากขึ้น วิธีการรักษาที่ถูกต้องคือ ต้องนวดบริเวณหัวตาคลึงลงมาที่ปลายจมูก ทำรอบละ 20 ครั้ง วันละ 4 รอบ รวม 80 ครั้งต่อวัน อาการตาแฉะจะค่อยๆ ดีขึ้นภายในระยะเวลา 1 เดือน
ทั้งนี้ หากการกินยาไม่ต่อเนื่องตามที่แพทย์สั่ง อาการตาแฉะก็จะสามารถกลับมาได้อีก หากลืมกินยาก็สามารถเริ่มกินยาต่อไปได้เลยโดยที่ไม่ต้องมาเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่แรก
ทางที่ดีก็หมั่นดูแลรักษาความสะอาดของดวงตาอยู่เสมอ โดยเฉพาะเด็กทารกแรกเกิด ซึ่งอาจจะมีอาการตาแฉะได้โดยง่าย ป้องกันเอาไว้ก่อนดีกว่าค่ะ
ขอขอบคุณ นิตยสารเรื่องผู้หญิง ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
Written by on
Written by on
วิธีสังเกตว่าลูกของเราเป็นออทิสติกหรือเปล่า
คงไม่มีคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่อยากจะให้ลูกของตัวเองเป็นออทิสติกหรอกนะคะแต่เรื่องอย่างนี้เราก็ห้ามไม่ให้เป็นไม่ได้เสียด้วย ข่าวดีก็คือถ้าเราพบว่าลูกของเราเป็นตั้งแต่เนิ่นๆ เราก็สามารถที่จะพาลูกเข้ารับการรักษาให้หายเป็นปกติได้ค่ะ ลองสังเกตดูนะคะว่าลูกของคุณมีอาการเหล่านี้หรือเปล่า
ทั้งหมดนี้คือพฤติกรรมเสี่ยงที่จะเป็นโรคออทิสติกค่ะ ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกมีอาการดังกล่าวควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางแก้ไขโดยด่วนเลยนะคะ
ขอขอบคุณ นิตยสารเรื่องผู้หญิง ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
Written by on
Written by on
ให้ลูกกินซีรีแล็คเมื่อไหร่ดี
ซีรีแล็คเป็นอาหารเสริมที่มีคุณค่าทางอาหารครบถ้วนอยู่แล้ว แต่เด็กวัยไหนที่เหมาะสมจะเริ่มกินอาหารเสริมได้ ไปติดตามกันเลยค่ะ
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชให้ข้อมูลว่า เด็กอายุตั้งแต่ 4 เดือนแรกก็สามารถฝึกให้กินซีรีแล็คได้แล้ว เพราะหากเด็กเริ่มกินอาหารเสริมหลังจาก 4 เดือน หรือเริ่มกินตอนประมาณ 6 เดือน ก็แทบไม่แตกต่างกับการกินอาหารชนิดอื่นๆ ทั่วไปเลย เพียงแต่ในช่วงแรกๆ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ใส่เครื่องปรุงเยอะๆ หรืออาหารที่มีแนวโน้มจะก่อให้เกิดการแพ้ เช่น ไข่ขาว หรือสตรอเบอร์รี่
อาหารเสริมอย่างซีรีแล็ค แม้จะมีคุณค่าทางอาหารอยู่แล้ว แต่เด็กวัยนี้ต้องการสีสันในอาหารให้น่ารับประทาน แต่ก็ควรเลือกสิ่งที่มีประโยชน์ เช่น ฟักทองที่อุดมไปด้วยเบตาแคโรทีน และมีวิตามินซีแถมยังย่อยง่าย และไม่ค่อยทำให้เกิดอาการแพ้ เหมาะที่จะเติมลงไปในอาหารเสริมสำหรับเด็ก เพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้สูงขึ้น
ขอขอบคุณ นิตยสารเรื่องผู้หญิง ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
Written by on