ของเล่นเพื่อส่งเสริมพัฒนาการ เด็กวัย 4-12 เดือน
พัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กวัย 0-1 ปี
วัสดุอุปกรณ์ / เกม - กระจกเงา (อายุ 4-12 เดือน)
ประโยชน์ เพื่อฝึกการมองและการสังเกตการเคลื่อนไหวของหน้าตา และท่าทางขณะมองเล่น เด็กวัยนี้มักชอบมองเงาตัวเอง และสิ่งอื่น ๆ ในกระจก
วัสดุอุปกรณ์ / เกม - ของเล่นไขลาน เช่น ลูกเป็ด ลูกไก่ และอื่น ๆ ซึ่งอาจมีเสียงดนตรี ประกอบ
ประโยชน์ ขณะที่ของเล่นไขลานเคลื่อนไหว เด็กสนใจ ละมองตามการเคลื่อนไหวของของเล่นเหล่านั้น ตลอดทั้งกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวตัวเองอีกด้วย เช่น เด็กอาจจะคืบ คลาน หรือเกาะเดิน เหนี่ยวตัวลุกยืน เกาะยืน เพื่อให้ได้ของเล่นเหล่านั้น
วัสดุอุปกรณ์ / เกม - วัสดุรูปทรงเรขาคณิต อาจเป็นผ้า กล่องสีต่าง ๆ ก้อนไม้ หรือก้อน พลาสติกที่มีขนาดต่าง ๆ กัน
ประโยชน์ เพื่อฝึกการสังเกตรูปร่าง รูปทรง และจับกำ ซึ่งภายในกล่องสีต่าง ๆ อาจใส่เม็ดถั่ว / เม็ดพลาสติก ไว้ข้างในได้ เมื่อเด็กเขย่า / เคาะ แล้วเกิดเสียง เพื่อกระตุ้นการฟังและความสนใจของเด็กในขณะเล่นของเล่นมากขึ้น
วัสดุอุปกรณ์ / เกม - หมุดหรือไม้สี ซึ่งมีขนาดใหญ่ อาจ ทำด้วยไม้หรือพลาสติก พร้อม กระดานมีรู
ประโยชน์ เพื่อเสริมสร้างการใช้ปลายนิ้วในการหยิบ หรือยัดนิ้วใส่ลงในรู หรือในช่องที่เจาะไว้บนกล่อง เด็กวัยนี้เริ่มใช้ปลายนิ้วหยิบ หรือใช้นิ้วยัดใส่รู หรือช่องที่เจาะไว้
วัสดุอุปกรณ์ / เกม - เกมจ๊ะเอ๋ (อายุ 7 เดือน ? 1 ปี)
ประโยชน์ เกมนี้เพื่อฝึกให้เด็กรู้จักการค้นหาวัตถุที่หายไป ตลอดทั้งฝึกความสนใจ สมาธิในการฟังจังหวัดของเสียง และยังเป็นการเสริมสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ด้วย โดย ผู้ใหญ่อาจใช้มือ
วัสดุอุปกรณ์ / เกม - เกมปูไต่
ประโยชน์ เกมนี้เพื่อฝึกให้เด็กได้รับการฟังเสียง ฝึกความสนใจ มีการจับจ้องมองหน้าแม่ ตลอดทั้งได้รับรู้ถึงการสัมผัสจากวัตถุที่มีความแตกต่างกันของพื้นผิว สร้างเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ใหญ่กับเด็ก รวมถึงพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดีของเด็กด้วย โดยผู้ใหญ่ใช้ปลายนิ้วหรือของเล่น หรือวัสดุที่มีพื้นผิวต่าง ๆ กัน เช่น ผ้า ฟองน้ำ ตุ๊กตายาง ไล้ไปบนผิวเด็กในทุกจุดของร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ขณะเล่นเกมผู้ใหญ่ควรพูดคุย หัวเราะ และยิ้ม สร้างบรรยากาศให้เด็กสนุกสนานไปด้วย ตลอดทั้งจุดต่าง ๆ ที่ลูบไล้ สัมผัสไปบนผิวเด็ก ควรบอกให้เด็กได้รับรู้ด้วย เช่น ?แม่กำลังลูบไล้มือของลูกนะ? อาจร้องเพลงขณะเล่นปูไต่ด้วยก็ได้
วัสดุอุปกรณ์ / เกม - เกมจับปูดำ (อายุ 9-12 เดือน)
ประโยชน์ เกมนี้เพื่อฝึกกล้ามเนื้อมือในการเปิด-ปิดมือหรือกำ-แบมือ ตลอดทั้งเด็กเริ่มสามารถเลียนแบบท่าทางกำมือ แบมือจากพ่อแม่ในขณะเล่นเกมนี้ โดยขณะเล่นผู้ใหญ่ควรร้องเพลง ?จับปูดำขย้ำปูนา จับปูม้า มาคว้าปูทะเล? ร่วมด้วย เด็กจะเกิดความสนุกสนาน และสร้างเสริมการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นอีกด้วย รวมทั้งเป็นการฝึกการฟัง ความสนใจ และสมาธิให้กับเด็กอีกด้วย
วัสดุอุปกรณ์ / เกม - เกมตบมือเปาะแปะ (อายุ 9-12 เดือน)
ประโยชน์ เกมนี้เพื่อฝึกการทำงานของกล้ามเนื้อมือทั้ง 2 ข้าง และเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นในขณะเล่นด้วย ตลอดทั้งให้เด็กฟังจังหวะในขณะตบมือ และเพิ่มความสนุกสนานให้กับเด็กอีกด้วย โดยผู้ใหญ่จับมือเด็กมาตบมือกันหรือเด็กตบมือเอง เมื่อผู้ใหญ่กระตุ้นให้เด็กทำตาม อาจใช้คำกลอนหรือเพลงที่เกี่ยวข้องกับการตบมือมาประกอบด้วยก็ได้ เช่น คำกลอน ?ตบมือเปาะแปะ เรียกแพะมากินนม นมไม่หวานเอาน้ำตาลมาใส่? หรือเพลงตบมือ ?เรามาตบมือกันดีกว่า (3 ครั้ง) แล้วเราชวนกันร้องเพลง
วัสดุอุปกรณ์ / เกม - เกมค้นหาของเล่น
ประโยชน์ เกมนี้เพื่อฝึกให้เด็กได้รู้จักใช้ความคิดในการแก้ปัญหาอย่างง่าย ในการค้นหาของเล่น ซึ่งผู้ใหญ่อาจช่วยชี้แนะได้บ้าง เพื่อให้เด็กเกิดความรู้สึกถึงความสำเร็จในการทำงาน ตลอดทั้งเด็กได้รับการฝึกประสบการณ์เรื่องการคงอยู่ของวัตถุ (object permanent) โดยผู้ใหญ่ใช้ผ้าห่อกระดาษปิดของเล่นในขณะที่เด็กเล่นอยู่ อาจจะปิดบางส่วนหรือปิดทั้งหมดของของเล่นก็ได้ ซึ่งเด็กจะพยายามค้นหาของเล่นโดยการดึงผ้าหรือกระดาษออก
วัสดุอุปกรณ์ / เกม - กะบะทราย / ข้าวสารย้อมสี หรือ เม็ดถั่วต่าง
ประโยชน์ เพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสทางการจับ หยิบ ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็ก โดยการใช้ปลายนิ้วหยิบจับวัตถุที่มีขนาดต่าง ๆ กัน ตลอดทั้งเพิ่มพูนทักษะการประสานงานระหว่างมือและตา รวมทั้งฝึกทักษะทางสังคม รู้จักมีการให้และรับ (turn-taking) สร้างลักษณะนิสัยที่ดีและเหมาะสม ซึ่งจะเป็นพื้นฐานทางอารมณ์ที่ดีอย่างหนึ่ง ซึ่งสามารถฝึกได้ตั้งแต่ยังเด็ก โดยการนำทราย หรือข้าวสารย้อมสีหรือเม็ดถั่วต่าง ๆ ใส่กะบะ และใช้อุปกรณ์การเล่นทราย หรืออาจประยุกต์ใช้อุปกรณ์ในครัวเรือน เช่น จาน ชาม ช้อน แก้วน้ำ ฯลฯ มาร่วมในเกมนี้
พฤติกรรมของเด็กในวัยนี้ จึงจำกัดหรือห้ามปรามไม่ให้เด็กอาของเข้าปาก อาจเพราะกลัวสกปรกหรือสำลัก ซึ่งจะทำให้เด็กหงุดหงิด อารมณ์เสีย และไม่เกิดการเรียนรู้ ดังนั้นพ่อแม่และผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิดควรเข้าใจในพฤติกรรมของเด็กและส่งเสริมการเรียนทักษะเหล่านี้ให้ถูกต้องเหมาะสมรวมทั้งดูแลเรื่องความปลอดภัยในการเล่นของลูก โดยเฉพาะอุปกรณ์การเล่นควรที่จะมีขนาดใหญ่ สีสันปลอดภัย จับ/ กำถนัดมือ สามารถให้เด็กได้สัมผัสผ่านการกัด ดูด เลียได้ ขนาดและน้ำหนักต้องเหมาะสมกับเด็กแต่ละคน สามารถล้าง / ซัก อุปกรณ์ของเล่นได้เมื่อสกปรก ตอลดทั้งพ่อแม่ควรมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กระหว่างการเล่นอีกด้วย อย่าปล่อยให้เด็กเล่นคนเดียวเพราะเด็กยังไม่รู่จักว่าของเล่นแต่ละชิ้นมีวิธีการเล่นอย่างไร
ประภาศรี นันท์นฤมิตหน่วยพัฒนาการและเจริญเติบโตภาควิชากุมารเวชศาสตร์ รพ.จุฬาฯ