ปลาเซลฟินมอลลี่

ปลาเซลฟินมอลลี่

ชื่อสามัญ ปลาเซลฟินมอลลี่ Sailfin molly

ชื่อวิทยาศาสตร์ ปลาเซลฟินมอลลี่ Poecilia latipinna (Lesueur, 1821)

ลักษณะทั่วไปของปลาเซลฟินมอลลี่

ปลาเซลฟินมอลลี่ (sailfin molly) จัดว่าเป็นปลาที่มีความสวยงามมากที่สุดในบรรดาปลาในตระกูลปลาสอดทั้งหมด เป็นปลาที่มีความสง่างามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ครีบกระโดงหลัง ซึ่งมีลักษณะแผ่กางออกเป็นแผ่นคล้ายเรือใบ เป็นปลาในตระกูลปลาสอดที่มีครีบกระโดงหลังขนาดใหญ่ และยาวที่สุดเมื่อเวลาแผ่ครีบและหางเต็มที่มีความสวยงามมาก ลำตัวออกสีเหลืองทอง ตามีสีแดงสดใส เกล็ดมีลักษณะเงาแวววาวสะท้อนแสง สีสันของครีบตลอดจนลำตัว และหางเป็นสีน้ำเงินอมเขียวเข้มแล้วค่อย ๆ จางลงจนกลายเป็นสีส้ม ตรงใต้ท้องมีลวดลายสีส้มขึ้นประปรายตลอดทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดปลายหาง และมีจุดสีดำแซมอยู่ทั่วไป ความยาวโตเต็มที่ เพศผู้มีขนาดประมาณ 10 ซม. เพศเมียมีขนาดประมาณ 12 ซม. มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกา แม๊กซิโก เท็กซัส ฟอร์ริดา และเวอร์จิเนีย ปลาชนิดนี้จัดว่าเป็นปลาน้ำกร่อยชนิดหนึ่ง ดังนั้นน้ำที่ใช้เลี้ยงจึงจำเป็นต้องผสมเกลือในอัตราส่วน เกลือ 1 ช้อนชา ต่อน้ำ 10 ลิตร และถ้าหากไม่จำเป็นก็ไม่ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อยครั้งนัก การเปลี่ยนถ่ายน้ำไม่ควรเปลี่ยนถ่ายในทีเดียว ควรมีน้ำเก่าหลงเหลืออยู่ไม่ต่ำกว่า ครึ่งของตู้ และเมื่อเติมน้ำใหม่เข้าควรใส่เกลือตามอัตราส่วนที่ได้กล่าวมาแล้วในข้างต้น

การเพาะพันธุ์ปลาเซลฟินมอลลี่

การคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ การจำแนกเพศของปลาเซลฟินมอลลี่ดูได้จากขนาดของลำตัว สีสันของปลา และครีบก้น โดยปลาตัวผู้มีขนาดลำตัวที่เรียวยาวกว่าปลาตัวเมีย ลักษณะสีปลาตัวผู้มีสีเข้มกว่าตัวเมียโดยเฉพาะส่วนหัว กระโดงบนหลังของปลาตัวผู้ใหญ่และยาวกว่าตัวเมีย ครีบก้นของปลาตัวเมียมีลักษณะบานเหมือนพัด ส่วนครีบก้นของปลาตัวผู้มีลักษณะแหลมเรียวและอยู่แนบกับลำตัว

การเพาะพันธุ์ ปลาในตระกูลนี้จัดว่าเป็นปลาที่ค่อนข้างแพร่พันธุ์ได้ง่าย ออกลูกเป็นตัว ปลาตัวเมียสามารถให้ลูกปลาได้คอกละประมาณ 20-80 ตัว ในการเพาะพันธุ์ไม่ควรปล่อยให้ตัวผู้อยู่ร่วมกันหลาย ๆ ตัว เพราะปลาจะทำร้ายกันเอง และเมื่อปลาให้ลูกแล้ว ควรแยกพ่อแม่ปลาออก เพราะมิฉะนั้นปลาอาจกินลูกของตัวเองได้ ในบ่อเพาะพันธุ์ควรปลูกสาหร่าย หรือหาหินมาวาง เพื่อสร้างเป็นโพรงเพื่อให้ลูกปลาใช้หลบภัยได้บ้าง

การอนุบาลลูกปลา

ในช่วงที่ลูกปลายังเล็กอยู่ควรรักษาระดับอุณหภูมิอย่าให้เกินกว่า 24 องศาเซลเซียส ขณะที่ลูกปลายังมีขนาดเล็กควรให้ลูกไรแดงเป็นอาหาร หรืออาจใช้ไข่ต้มจนสุก เอาเฉพาะไข่แดงมาบี้ให้กิน แต่อย่าให้เยอะจนเกินไป เพราะอาจทำให้น้ำเสียได้ ไม่ควรเลี้ยงอยู่กลางแจ้ง เพราะแสงสว่างจะจ้ามากเกินไป หากจำเป็นก็ควรหาแผ่นไม้ หรือกระเบื้องปิดครอบให้มีร่มเงาให้ปลาหลบได้ เนื่องจากปลาชนิดนี้ไม่ชอบแสงสว่างจ้ามาก ๆ

ขอบคุณข้อมูล ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

airban-300x250
0
Shares