ตำนานการกินของชาวญี่ปุ่น

ตำนานการกินของชาวญี่ปุ่น

ฝรั่งมีสุภาษิตว่า "You Are What You Eat" กินอะไรร่างกายก็เป็นแบบนั้นเป็นการยืนยันว่าอาหารนั้นมีความสำคัญกับคนเรามาก สำหรับคนญี่ปุ่น ถ้าพูดถึงอาหารที่สำคัญ รับรองว่าจะขาด 3 ชนิดนี้ไม่ได้เลย

ปลา คนญี่ปุ่นได้ชื่อว่าเป็นชาติที่กินปลามากที่สุดในโลก แถมยังกินได้ทุกสปีชี่ส์ที่คนชาติอื่นเขาไม่กินกัน เช่นปลาวาฬ ปลาฉลาม ปลาหมึกยักษ์ ฯลฯ เมื่อกินมากคนญี่ปุ่นก็เลยเข้าใจธรรมชาติของปลามาก และรู้ด้วยว่าปลาซีกที่อร่อยที่สุดนั้นคือซีกที่อยู่ด้านบน เวลาชาวประมงจับปลาตัวใหญ่ๆ มาได้ จะวางเรียงเอาด้านบนขึ้นไว้เป็นแถวจนกว่าจะมีคนมาซื้อ เนื้อปลาด้านที่อยู่ข้างบนเลยสดกว่าด้านล่าง พ่อค้าที่ซื้อไปรวมทั้งแม่ครัวก็จะต้องระวังไม่ยอมกลับด้านปลาเป็นอันขาด พอทำเป็นอาหารเสร็จก็จะเสิร์ฟเอาด้านบนขึ้นอีก คนกินจะได้กินแต่เนื้อด้านที่อร่อยที่สุด คนญี่ปุ่นจะทำอย่างนี้กับปลาตัวโตๆ ที่คนรวยและขุนนางกินกันเท่านั้น ถ้าเป็นพวกปลาซิวปลาสร้อยไม่มีราคาก็วางพลิกคว่ำคะมำหงายกันตามสบาย

การกินปลาเฉพาะด้านยังใช้วัดความโง่ความฉลาดของคนได้ด้วย ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นบันทึกถึงโชกุนคนหนึ่ง ที่ถูกตราหน้าว่ามีหัวไว้แค่กั้นหูเพราะกินปลาไม่เป็น โชกุนคนนี้ชอบกินปลามาก ทุกมื้อจะต้องมีปลาเป็นเมนูเด็ด และจะกินแต่ซีกบนที่อร่อยที่สุดเท่านั้น วันหนึ่งท่านโชกุนหิวจัด หลังจากซดโฮกปลาซีกบนจนเกลี้ยง ท่านก็สั่งแม่ครัวให้ทำปลามาอีกจาน แต่ปลาในครัวหมดแล้ว ยายแม่ครัวกะล่อนก็เลยพลิกปลาเอาซีกที่อยู่ข้างล่างขึ้นมาไว้ข้างบนแล้วเอาไปเสิร์ฟ ท่านโชกุนก็กินอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่รู้ว่าไอ้ที่กินอยู่นี่เป็นด้านล่าง พอเรื่องเล่าลือออกไปชาวบ้านก็เลยหัวเราะเยาะเรียกท่านโชกุนว่าคนโง่เพราะกินปลามาเป็นชาติแล้วยังแยกไม่ออกว่าปลาด้านที่ดีกับด้านที่รสชาติโหลยโท่ยต่างกันอย่างไร

งู เห็นหน้าใสอินโนเซ้นต์อย่างนั้น ใครจะเชื่อว่างูเงี้ยวเขี้ยวขอนี่ล่ะเป็นเมนูที่คนญี่ปุ่นโปรดปรานมาก แถมชนิดที่ถือว่าหอเจี๊ยะที่สุดต้องเป็นพวกงูพิษ ยิ่งพิษร้ายก็ยิ่งอร่อย เพราะคนญี่ปุ่นเชื่อว่างูพิษเป็นยาบำรุงกำลัง ถ้าใครร่างกายอ่อนเพลียเจ็บป่วยเรื้อรัง ต้องกินตับงูที่เพิ่งแหวะท้องออกมาสดๆ ส่วนงูแช่เหล้าสาเกนั้นถือว่าเป็นยาครอบจักรวาล รักษาได้สารพัดโรค ที่มาของสาเกดองงูมีอยู่ว่า ในสมัยโบราณมีกระทาชายยุ่นปี่ (ญี่ปุ่น) คนหนึ่งเป็นโรคผิวหนังขนาดหนัก รักษาเท่าไรก็ไม่หาย วันหนึ่งมีคนเอาเหล้าสาเกมาฝากหนึ่งไห เจ้าหนุ่มก็จ้วงดื่มทุกวัน ยิ่งกินอาการยิ่งดีขึ้นจนหายสนิท แต่พอกินจนถึงก้นไห เขาถึงเห็นว่ามีงูตัวหนึ่งนอนตายอยู่ในนั้น นับจากนั้นคนในหมู่บ้านก็เลยรู้ว่าสาเกที่ดองด้วยงูเป็นยารักษาโรคที่ชะงัดนัก ยิ่งทำให้คอเหล้าได้ใจ ก๊งสาเกดองงูกันไปทั้งบ้านทั้งเมือง จนงูกลายเป็นอาหารฮิตติดลมบนมาถึงทุกวันนี้ แต่ชาวญี่ปุ่นบางคนก็ทนความสยึมกึ๋ยของงูสดๆ ไม่ได้ พวกหมอก็เลยจับงูไปตากแห้งแล้วบดเป็นผง กลายเป็นงูผงเอาไว้กินกับน้ำร้อน บางคนก็เอาไปโรยข้าวหรือโรยในอาหาร จะได้กินง่ายขึ้น

แมงกะพรุน อย่างที่บอกว่าอะไรก็ตามที่อยู่ในทะเลเป็นเสร็จคนญี่ปุ่นหมด แมงกะพรุนก็เลยไม่รอดคนญี่ปุ่นกินแมงกะพรุนเยอะจนเทพเรื่องสปีชี่ส์ของสัตว์ชนิดนี้ รู้ว่าชนิดไหนมีพิษชนิดไหนไม่มี เคยมีประวัติว่าในช่วงสงครามนักรบญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่งเคยเอาแมงกะพรุนชนิดมีพิษมาบดเป็นผง เอาไปโรยไว้เหนือลมให้พัดไปเข้าตาจมูกปากทหารฝ่ายศัตรู ทำให้ศัตรูหน้าบวมฉึ่ง บ้างก็ตาบอด แพ้ไปเองชนิดแทบไม่ต้องรบ

Tip มารยาทท่องไว้ เวลาไปกินอาหารญี่ปุ่น

  •  เวลากินอาหารประเภทเส้น ไม่ว่าจะเป็นโซบะ อุด้ง ราเมน อย่าลืมทำเสียงซู้ดซ้าดดังๆ คนญี่ปุ่นถือว่ายิ่งสูดดังเท่าไร แสดงว่าอาหารของเขาอร่อยมากเท่านั้น
  •  เทคนิคการกินข้าวปั้นที่ถูกต้องคือเอาด้านที่ห่อสาหร่ายจิ้มน้ำจิ้มโชยุ คนที่เอาด้านที่เป็นข้าวจุ่มลงไปถือว่าเป็นอาชญากรทำลายรสชาติของข้าวปั้นคำนั้น
  •  คนมีมารยาทของญี่ปุ่นคือคนที่กินข้าวหมดชาม ไม่เหลือไว้ให้เปลืองเปล่าไปเฉยๆ
  •  การรินเหล้าหรือน้ำชาให้ตัวเอง ธรรมเนียมญี่ปุ่นถือว่าไม่สุภาพ ถ้าไม่มีพนักงานคอยรินให้ เราต้องรินให้เพื่อนแล้วให้เพื่อนรินให้เรา
  •  การกินอาหารชุดจะต้องวางถ้วยข้าวไว้ด้านซ้ายมือ ถ้วยซุปไว้ทางขวามือ ถ้าวางสลับเอาถ้วยซุปไว้ซ้าย ถ้วยข้าวไว้ทางขวา เท่ากับเป็นสำรับที่ใช้เซ่นไหว้คนที่ตายไปแล้ว
  •  ห้ามคีบอาหารส่งต่อกันด้วยตะเกียบ ถ้าจะคีบกับข้าวให้เพื่อนต้องคีบแล้ววางลงบนจาน จากนั้นเพื่อค่อยคีบไปกินอีกทีหนึ่ง

ขอขอบคุณ ที่มา : Spicy ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

 

airban-300x250
0
Shares