ตำนานของวันขึ้นปีใหม่

ตำนานของวันขึ้นปีใหม่

อีกไม่กี่วันจะได้เวลานับถอยหลังเข้าสู่วันปีใหม่กันอีกปีแล้วนะคะ วันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วจริงๆ เลยค่ะ จะได้เวลาเฉลิมฉลองในช่วงปีใหม่กันอีกแล้ว สาวๆ รู้กันบ้างมั้ยคะว่าก่อนจะมาเป็นวันขึ้นปีใหม่ให้เราเฉลิมฉลองกันอย่างทุกวันนี้ วันปีใหม่ในแต่ละปีมีความเป็นมายังไง ถ้ายังไม่รู้วันนี้เจ๊จะเล่าให้สาวๆ ได้ฟัง จะได้ร่วมกันผ่านช่วงเวลานี้ไปอย่างสุขใจและเข้าใจถึงความสำคัญในวันนี้ยังไงล่ะค่ะ

ความเป็นมา ในอดีตวันขึ้นปีใหม่ของของไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงมาแล้วถึง 4 ครั้ง ได้แก่ ครั้งแรกถือเอาวันแรม 1 ค่ำ เดือนอ้าย เป็นวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งตรงกับเดือนมกราคม ครั้งที่ 2 กำหนดให้วันขึ้นปีใหม่ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ตามคติพราหมณ์ ซึ่งตรงกับเดือนเมษายน โดยการกำหนดวันขึ้นปีใหม่ใน 2 ครั้งนี้ถือเอาทางจันทรคติเป็นหลัก ต่อมาได้ถือเอาทางสุริยคติแทน โดยกำหนดให้วันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ ตั้งแต่ พ.ศ.2432 เป็นต้นมา

แต่ว่าประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะตามชนบทยังคงยึดถือเอาวันสงกรานต์เป็นวันขึ้นปีใหม่อยู่ ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย ทางราชการเห็นว่าวันขึ้นปีใหม่ในเดือนเมษายนไม่เหมาะสมที่จะมีการรื่นเริงอะไรมากนัก ควรที่จะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ จึงได้ประกาศให้มีงานรื่นเริงวันขึ้นปีใหม่ในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2477 ขึ้นในกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก การจัดงานวันขึ้นปีใหม่ที่ได้เริ่มเมื่อวันที่ 1 เมษายน ได้แพร่หลายออกไปต่างจังหวัดในปีต่อๆ มา และในปี พ.ศ.2479 ก็ได้มีการจัดงานรื่นเริงปีใหม่ทั่วทุกจังหวัด วันขึ้นปีใหม่วันที่ 1 เมษายน ในสมัยนั้นทางราชการเรียกว่าวันตรุษสงกรานต์

เหตุผลที่ทางราชการได้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่จากวันที่ 1 เมษายน มาเป็นวันที่ 1 มกราคม ก็คือ

  • ไม่ขัดกับพุทธศาสนาในด้านการนับวัน เดือน และการร่วมฉลองปีใหม่ด้วยการทำบุญ
  • เป็นการเลิกวิธีนำเอาลัทธิพราหมณ์มาคร่อมพระพุทธศาสนา
  • ทำให้เข้าสู่ระดับสากลที่ใช้อยู่ในประเทศทั่วโลก
  • เป็นการฟื้นฟูวัฒนธรรม คตินิยม และจารีตประเพณีของชาติไทย

กิจกรรมที่ชาวไทยส่วนใหญ่มักจะยึดถือปฏิบัติในวันขึ้นปีใหม่ได้แก่

  • การทำบุญตักบาตร โดยอาจตักบาตรที่บ้าน หรือไปที่วัด หรือตามสถานที่ต่างๆ ที่ทางราชการเชิญชวนไปร่วมทำบุญ
  • การกราบขอพรจากผู้ใหญ่และอวยพรเพื่อนฝูง การมอบของขวัญ การมอบช่อดอกไม้หรือการส่งบัตรอวยพร
  • การจัดงานรื่นเริง การจัดเลี้ยงในหมู่เพื่อนฝูงญาติพี่น้อง หรือตามหน่วยงานต่างๆ

วันขึ้นปีใหม่ถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่ใครหลายๆ คนจะนับเป็นวันเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ และแก้ไขหรือลบล้างสิ่งเก่าๆ ที่ไม่ดี ใครที่คิดจะเริ่มต้นอะไรสักอย่างที่ดีแล้วยังไม่ได้เริ่มสักที เจ๊ว่าวันขึ้นปีใหม่นี้เหมาะสมที่สุดแล้วค่ะ เริ่มตอนนี้อาจจะดูช้าไปแต่ก็ดีกว่าไม่เริ่มทำอะไรเลยนะคะ

ขอขอบคุณ ที่มา : Spicy ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

 

airban-300x250
0
Shares