โอริกามิ พับกระดาษสไตล์ปลาดิบ

โอริกามิ พับกระดาษสไตล์ปลาดิบ

รู้กันไหมคะว่าเด็กๆ ของประเทศญี่ปุ่นเค้าใช้อะไรในการฝึกสมองและเสริมสร้างให้เด็กมีสมาธิ เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ คำตอบก็คือ การพับกระดาษนั่นเองค่ะ เพียงแค่ใช้กระดาษ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างและเสริมสร้างพัฒนาการด้านต่างๆ ได้อย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ใช่แค่เด็กเท่านั้นผู้ใหญ่ก็สามารถทำได้

พับ ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า โอะริซุรุ การพับกระดาษรูปที่เป็นที่นิยมมากที่สุด ก็คือ นกกระเรียน คนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่า นกกระเรียนถือเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี หน้าที่การงานราบรื่นไม่มีอุปสรรค สุขภาพแข็งแรงและมีอายุยืนยาว คนญี่ปุ่นมักนิยมวาดลายนกกระเรียนลงบนชุดกิโมโนและยูคาตะของสตรี

เคยเห็นกันบ้างไหมคะ ที่มีคนร้อยนกกระเรียนพับเป็นจำนวนมากบนเส้นด้ายแล้วมัดรวมกันแขวนห้อยจากเพดาน สิ่งนี้เรียกว่า นกกระเรียนพันตัว เมื่อจะอธิษฐานสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น ขอพรให้หายจากอาการเจ็บไข้ได้ป่วยโดยเร็วมีแต่ความสุขและโชคดี หรือภาวนาให้เกิดสันติภาพ

ส่วนเรื่องราวเกี่ยวกับการพับนกกระดาษที่อยู่ในใจของคนญี่ปุ่นทุกคนก็คือ เรื่องราวของ เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งซึ่งเธอได้ตกเป็นเหยื่อจากการโดนผลกระทบของระเบิดนิวเคลียร์จากสงครามโลกครั้งที่ 2 ค่ะ เธอชื่อซาดะโกะ เธอเป็นเด็กที่ขยัน ร่าเริง และยังเป็นนักวิ่งของโรงเรียน อาศัยอยู่ที่เมืองฮิโรชิม่าในช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐอเมริกาได้ยิงระเบิดปรมาณูถล่มเมืองฮิโรชิม่า ซึ่งบ้านของเธอก็อยู่ไม่ห่างไกลจากที่เกิดสงครามมากนัก แต่เธอและครอบครัวก็สามารถหลบหนีจากระเบิดปรมาณูได้อย่างปลอดภัย หลังจากสงครามได้สงบและยุติลงเธอก็ใช้ชีวิตเหมือนธรรมดา เหมือนเด็กประถมทั่วไป

จนกระทั่งเมื่อเธออายุ 11 ปี ในขณะที่เธอกำลังซ้อมวิ่งแข่งซึ่งเป็นกีฬาที่เธอรักมากที่สุดนั้น เธอก็มักจะมีอาการวิงเวียนศีรษะและอาเจียน แต่เธอก็เก็บความลับนี้ไม่บอกผู้ใด จนกระทั่งจู่ๆ เธอก็มาหมดสติลง และเธอได้ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล และตรวจออกมาว่า เธอล้มป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ผลสืบเนื่องมาจากการที่เธอได้รับสารกัมมันตภาพรังสีจากระเบิดนิวเคลียร์ ความฝันที่อยากเป็นนั่งวิ่งแข่งประจำจังหวัดก็สลายลง

แพทย์ได้แจ้งกับทางครอบครัวของเธอให้ทราบว่า เธอจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 1 ปีเท่านั้น ชิซูโกะเพื่อนสนิทของซาดะโกะได้มาเยี่ยมพร้อมกับเล่าตำนานของนกกระเรียนพับว่า ถ้าพับนกกระเรียนครบ 1,000 ตัวเมื่อไหร่ ถ้าหวังสิ่งใดจะได้ในสิ่งที่ปรารถนา เธอก็หวังว่า การพับนกกระเรียนครั้งนี้จะทำให้เธอหายป่วยได้โดยเร็ว ในขณะที่เธอพับนกกระเรียนนั้นเธอได้เขียนคำว่า สันติภาพ ลงไปในกระดาษ เธอได้รวบรวมแรงกายแรงใจทั้งหมดเพื่อสู้กับความเจ็บปวดของร่างกาย เธอบรรจงพับออกมาได้อย่างสวยงามเปี่ยมไปด้วยความหวังและมุ่งมั่น รวมทั้งเด็กมัธยมที่จังหวัด นาโงย่า ก็ได้ส่งนกกระเรียนที่พับอย่างสวยงามมา เพื่อเป็นการเยี่ยมไข้และให้กำลังใจ อีกทั้งคนไข้ที่พักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาลเดียวกัน ต่างก็เริ่มพับนกกระเรียนด้วยเช่นกัน ด้วยความเชื่อที่ว่าหากสามารถพับนกกระเรียนได้ถึง 1,000 ตัว ก็จะสามารถหายจากอาการเจ็บป่วยได้ แต่ว่าถึงแม้จะพับได้เกิน 1,000 ตัว แต่ซาดะโกะก็จากโลกนี้ไปอย่างสงบในวันที่ 25 ตุลาคม ด้วยวัยเพียง 12 ปี

หลังจากที่ซาดะโกะเสียชีวิตแล้ว ก็ได้มีการบริจาคเงินเพื่อสร้างอนุสรณ์รำลึกถึงซาดะโกะ ซึ่งลักษณะของรูปปั้นนั้นเป็นหินแกรนิต เป็นรูปซาดะโกะชูนกกระเรียนพับไว้เหนือหัวด้วยมือทั้งสองมือ อยู่บนแท่นสูงใหญ่ โดยอนุสรณ์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองฮิโรชิม่า บ้านเกิดของซาดะโกะ สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ.1958 โดยอนุสรณ์แห่งนี้มีชื่อเรียกว่า "Genbaku no ko no zoo" สร้างเพื่อให้คนตระหนักถึงการเกิดสงคราม

ฟังเรื่องนี้แล้วก็เศร้านะคะ "สงครามไม่เคยทำให้ใครมีความสุข" เลยจริงๆ ทั่วทุกมุมโลกล้วนแต่มีปัญหากัน เราคนธรรมดาไม่อยากมีเรื่องกับใครก็ได้แต่ภาวนาขอให้โลกนี้จงมีแต่ความสงบค่ะ

ขอขอบคุณ ที่มา : นิตยสาร Spicy ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

airban-300x250
0
Shares