12 ทิปสำหรับการไดเอทสำหรับนางแบบมืออาชีพ

ในทุกสาขาอาชีพจะเห็นว่าอาชีพที่สามารถลดน้ำหนักได้เวิร์คที่สุด และทุกตำนานการไดเอทต้องอ้างถึงก็คืออาชีพนางแบบ แทบจะไม่เห็นนางแบบมืออาชีพแต่ละคนจะมีปัญหาเรื่องรูปร่างและน้ำหนักตัวกันเลยก็ว่าได้ วันนี้เราก็เลยขอเปิดประเด็นด้วยทิปการลดน้ำหนักของคนในวงการแคทวอล์คมาเป็นแบบอย่างการลดและควบคุมน้ำหนักกันค่ะ

ทิปที่ 1 ขู่ด้วยการเรียกตัวเองว่า "นางอ้วน" เป็นใครก็ไม่อยากมีชะตากรรมเช่นนั้นหรอกค่ะก่อนที่จะให้คนอื่นมาเรียกลับหลังหรือต่อหน้าให้ช้ำใจเป็นไปได้ชิงเรียกตัวเองก่อนเลยค่ะ เพราะมันจะเป็นการสร้างความกดดันให้ตัวเองเพื่อไม่ให้รู้สึกตามใจปากไปเสียทุกอย่าง ยิ่งถ้าตัวเองมีอาชีพเป็นนางแบบด้วยแล้ว ยิ่งจะปล่อยให้เอเจนซี่ปฏิเสธงานด้วยเหตุผลว่าตอนนี้หุ่นเธอไม่ใช่นางแบบแต่เป็นนางอ้วน อย่างนี้ปวดใจค่ะ

ทิปที่ 2 ถ่ายรูปตัวเองในบิกินีตัวเก่งเอาไว้ทุกสัปดาห์ เรียกว่าเอาไว้ดูพัฒนาการไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพด้านการไดเอท หรือไม่ก็เอาไว้ตรวจดูพัฒนาการเซลลูไลท์ที่ค่อยๆ พอกหน้าท้องและต้นขาของตัวเอง ลองถ่ายเอาไว้สัก 7 สัปดาห์แล้วลองเอามาวางเรียงกันดู คุณก็จะเห็นพัฒนาการที่เปลี่ยนไปของตัวเอง ซึ่งน่าจะมีผลอยู่ 2 อย่างคือผอมจนใส่บิกินีตัวเดิมไม่ได้เพราะหลอมเกินไป หรือไม่จะพบอาการปลิ้นและรู้สึกอึดอัดเมื่อสวมบิกินีตัวนั้น

ทิปที่ 3 เติมเต็มตู้เย็นด้วยสแน็คที่มีประโยชน์และแคลอรีน้อย ส่วนมากแล้วไม่ว่าจะเป็นนางแบบมืออาชีพหรือคุณผู้หญิงที่ควบคุมน้ำหนักนั้นมักจะงดไม่ทานอาหารเย็น แต่กว่าจะเข้านอนหรือเกิดตื่นขึ้นมากลางดึกแน่นอนว่าคุณจะทรมานด้วยความหิวแบบสุดๆ หลายคนอดใจไม่ไหวขันติแตก เปิดตู้เย็นที่อุดมไปด้วยของทานเล่นและของกินแบบจัดหนักแล้วจัดมื้อกลางดึกให้ตนเอง อย่างนี้เราจึงอยากแนะนำให้คุณเตรียมเสบียงไว้ในตู้เย็นน้อยๆ และเป็นของที่เบาๆ ก็พอ เวลาหิวขึ้นมากลางดึกจะได้ทานเท่าที่มีก็พอค่ะ

ทิปที่ 4 ทดแทนพื้นที่ในกระเพาะอาหารด้วยน้ำ ทิปของซูเปอร์โมเดลที่แพร่หลายก็คือก่อนได้รับเชิญทานอาหารมื้อใหญ่ โดยส่วนมากแล้วชีก็จะหันมาแทนพื้นที่ว่างของท้องด้วยการดื่มน้ำเปล่าเพื่อลดระดับความสามารถในการรับได้ของพื้นที่ในกระเพาะอาหาร หลายคนคิดว่าวิธีนี้มีส่วนช่วยในการเพิ่มอัตราการเผาผลาญเพราะน้ำจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการเผาผลาญเพิ่มขึ้นค่ะ แต่ต้องขอย้ำว่าต้องเป็นน้ำเปล่าอันปราศจากแคลอรีนะคะ ไม่ใช่น้ำหวานหรือเครื่องดื่มใดๆ ที่มีแคลอรี เพราะถ้าไม่ใช่น้ำเปล่ามันก็เปล่าประโยชน์ค่ะ

ทิปที่ 5 หา Diet Buddy มาแจมโปรแกรมร่วมกัน เรื่องอย่างนี้มันต้องมีเพื่อนคู่หูมาช่วยกันเตือนให้รักษากฎทองของการไดเอทร่วมกัน เพราะทำคนเดียวอาจไม่สามารถคงระดับการไดเอทได้ จะต้องมีเพื่อนมาร่วมชะตากรรมเดียวกันมาคอยเตือนคอยดุให้ปฏิบัติตามกฎการไดเอทอย่างเคร่งครัด ข้อระวังอย่างหนึ่งคือคนที่ได้รับเลือกมาเข้าโปรแกรมเดียวกันจะต้องไม่ใช่เพื่อนกินที่ชอบพากันไปกินนะคะ เพราะเดี๋ยวจะไม่บรรลุผลสำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้กันทั้งคู่ค่ะ

ทิปที่ 6 มี Food Diary ไว้คู่กาย ปกติแล้วคนเราจะไม่สนใจว่าสิ่งที่เลือกทานมีปริมาณแคลอรีมากน้อยเพียงใด แต่เรามักจะคะเนเอาเอง ซึ่งบางครั้งมันไม่ถูก ดังนั้นเราจึงแนะนำว่าคุณควรมีคู่มือการไดเอทเป็น Food Diary ที่มีตารางบอกแคลอรีของอาหารแต่ละจานเอาไว้ตรวจดู พร้อมมีพื้นที่ว่างให้คุณจดได้ในแต่ละวันว่าคุณทานอะไรไปบ้างและแคลอรีรวมอยู่ที่เท่าไหร่ จะได้ประมาณการแคลอรีของอาหารจานต่อไปได้ว่าอยู่ในลิมิตที่เท่าไหร่ ที่สำคัญไดอารี่ที่ว่านี้มันจะช่วยเตือนสติไม่ให้คุณทานเกินโควต้าที่คุณจำกัดไว้ในแต่ละวันค่ะ

ทิปที่ 7 งดสังสรรค์ยามดึก ตรงนี้ถือว่าผิดวิถีนางแบบเลยค่ะ แต่อยากสวยก็ต้องยอมค่ะ เพราะการสังสรรค์ปาร์ตี้ยามดึกแม้จะมีการแดนซ์หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ได้เผาผลาญแคลอรีแต่การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการทานอาหารในช่วงหลังดวงอาทิตย์ตกดินแล้วนั้นถือเป็นกฎเหล็กข้อห้ามสำคัญของการไดเอทเลยล่ะค่ะ เราไม่ได้บอกให้คุณตัดขาดจากสังคมนะคะ แต่ต้องจำกัดการทานและการดื่มของตัวเองค่ะ แต่ส่วนใหญ่ก็จะห้ามใจตัวเองไปกับความสนุกของปาร์ตี้ไม่ได้อยู่แล้วและก็มักดื่มมันทุกขนานทานมันทุกอย่างเลยค่ะ อย่างนี้จะไม่ให้ตัวบวมเพราะปาร์ตี้อย่างหนักหน่วงได้อย่างไรกันคะ

ทิปที่ 8 ลดระดับความเร็วในการทาน การทานช้าลงอาจเป็นปัญหาในกรณีต้องแข่งขันกับการยื้อแย่งอาหารที่มีอยู่อย่างจำกัดจากคนหมู่มาก แต่มันจะไม่เป็นปัญหาเลยถ้าคุณจะปล่อยให้คนอื่นแย่งในส่วนของคุณไปทาน มันจะเป็นการจำกัดตัวเองไปในตัวเพื่อให้คุณทานได้น้อยลง การใช้เวลาทานที่นานขึ้นแบบค่อยๆ บรรจงเคี้ยวในแต่ละคำ จะช่วยทำให้ท้องส่งสารไปบอกสมองให้รู้สึกว่าค่อยๆ อิ่มแล้ว

ทิปที่ 9 เลี่ยงของทอด อาหารหลักของคุณถ้าเลี่ยงได้ควรเลี่ยงอาหารประเภททอด จะต้ม ผัด นึ่ง ปิ้ง ย่าง หรืออบก็ตามเถอะ เพราะการทอดมันเป็นการเพิ่มเอาน้ำมันเข้าไปปนอยู่ในเนื้ออาหาร ในขณะที่การประกอบอาหารด้วยวิธีอื่นๆ มันเป็นการช่วยสลายไขมันออกจากส่วนประกอบของอาหาร อย่างเช่นการย่าง คุณจะเห็นว่าเวลากริลล์สเต็กนั้นจะมีน้ำมันหยดติ๋งออกมาจากเนื้อสเต็ก ซึ่งถือเป็นการลดปริมาณไขมันในอาหารของคุณโดยทางอ้อม ในขณะที่การทอดตัวอาหารจะยิ่งอมน้ำมันและเป็นการเพิ่มปริมาณแคลอรีขึ้นเป็นเท่าตัวเลยล่ะค่ะ

ทิปที่ 10 คิดถึงโอกาสเรื่องงานเข้าไว้ ถ้าคุณเป็นนางแบบ เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะปล่อยตัวเองให้อ้วน เพราะด้วยงานของคุณคือการเป็นแบบให้เสื้อผ้าแฟชั่นที่นักออกแบบดีไซน์ออกมา แน่นอนว่าเขาไม่ได้ออกแบบมาให้นางแบบหุ่นอวบใส่เฉิดฉายบนแคทวอล์คหรอก การรักษารูปร่างจึงถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับอาชีพขายลุคส์อย่างการเป็นโมเดล ถ้าคุณไม่สามารถคงรักษารูปร่างและเรือนร่างได้ ดีไซน์เนอร์เขาคงไม่ยอมปล่อยผ่านให้คุณเอาชุดเสื้อผ้าของเขาไปใส่ทั้งๆ ที่หุ่นฉุ เพราะกลัวว่าคุณจะไประเบิดชุดของเขาให้เสียหายเสียเปล่าๆ ค่ะ แบบนี้จะทำให้งานของคุณลด รายได้หดเอาการอยู่เลยค่ะ หรือไม่คุณก็จะรับงานเดินแบบได้เฉพาะแฟชั่นผู้หญิงบิ๊กไซส์ หรือไม่ก็งานเดินแบบชุดคลุมท้องไปซะค่ะ

ทิปที่ 11 กดดันด้วยเรื่องผู้ชาย สำหรับบางคนเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องกดดันที่น่าจะมากกว่าเรื่องงานและเรื่องการเงินเสียอีก เพราะผู้ชายบางคนมีสเป็คความรักว่าต้องผอมเพรียวเท่านั้น ถ้าหุ่นไม่เพรียวลมหรือหุ่นกลายเป็นหุ่นโต้ลมไป ความรักมีอันต้องอับปางลงชัวร์ๆ ดังนั้นการกดดันตัวเองว่าหากปล่อยหุ่นเผละ ผู้ชายจะเลิกรัก อันนี้น่าจะเป็นความกดดันที่ทำให้เครียดจนไม่หิวได้นะคะ แต่สำหรับคนที่ยังไม่มีผู้ชายข้างกายอย่างเป็นตัวเป็นตนแล้วล่ะก็ ก็ควรหาเรื่องกดดันพฤติกรรมการกินของตัวเองด้วยโอกาสของการขึ้นคานที่จะเป็นไปได้สูงหากไดเอทไม่สำเร็จ

ทิปที่ 12 มีนักโภชนาการให้คำปรึกษาเรื่องอาหารเป็นการส่วนตัว ทิปอีกอย่างหนึ่งของนางแบบอาชีพในการดูแลรักษาหุ่นของตัวเองก็คือ การจ้างนักโภชนาการมาดูแลเมนูเรื่องการทานของพวกเธอเลย คุณแค่บอกนักโภชนาการว่าคุณไม่ต้องการอ้วนและอยากดูดีแบบนี้ตลอดไป พร้อมบอกเมนูที่คุณอยากทานแต่เสี่ยงทำให้คุณปุ้มปุ้ยขึ้นถ้าทานในปริมาณที่มากเกินไป นักโภชนาการเหล่านี้จะช่วยคำนวณหาแคลอรีและจัดเมนูพร้อมจำกัดปริมาณการทานในแต่ละมื้อให้กับคุณเอง คุณไม่จำเป็นต้องอดของชอบอย่างข้าวขาหมูหรือสเต็กเนื้อติดมัน แต่นักโภชนาการจะจัดเมนูข้าวขาหมูหรือสเต็กเนื้อติดมันเป็นมื้อกลางวันขนาบด้วยมื้อเช้าเบาๆ อย่างข้าวต้มและมื้อเย็นอย่างสลัดปลาทูน่า เป็นการแชร์แคลอรีอย่างมื้อหนักๆ อย่างมื้อกลางวันไปที่มื้ออื่นๆ ของวันแทนค่ะ

ขอขอบคุณ ที่มา : Spicy ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

6 ยอดอาหารตัวช่วยสำหรับสาวอยากผอม

สาวๆ ที่ต้องการลดความอ้วนหรือควบคุมน้ำหนักอยู่ในขณะนี้ฟังให้ดีเลยค่ะ คุณรู้มั้ยคะว่าถ้าหากมีโภชนาการในการทานที่เหมาะสมก็จะสามารถช่วยทำให้การลดน้ำหนักของคุณเห็นผลได้ดีขึ้นค่ะ โดยเฉพาะอาหารที่ช่วยในการเผาผลาญไขมันได้ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นตามไปดูกันเลยค่ะ

พริก มีสารรสเผ็ดร้อนที่ชื่อแคปไซซิน ช่วยเพิ่มความร้อนในร่างกาย ซึ่งสามารถช่วยเผาผลาญไขมันได้ ฉะนั้นถ้าใครกินเผ็ดได้ ก็เหยาะพริกป่นลงไปหน่อย หรือรับประทานพริกสดที่ซอยบางๆ ร่วมกับอาหารด้วยก็ดี

กาแฟ กาเฟอีนจะช่วยกระตุ้นเอนไซม์ ซึ่งมีหน้าที่ผาผลาญไขมัน ดังนั้น เราควรจะดื่มกาแฟเป็นประจำ แต่ไม่ควรดื่มมาก แค่มื้อเช้าดื่มหนึ่งแก้ว หลังอาหารเที่ยงดื่มอีกหนึ่งแก้ว ก็พอแล้วค่ะ

ชาเขียว การดื่มชาเขียวเป็นประจำในปริมาณวันละ 4 แก้ว สามารถช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันได้ และดีต่อสุขภาพอีกด้วย

ไวน์แดง หากดื่มในปริมาณน้อย สารบางอย่างในไวน์แดง ก็อาจจะช่วยขัดขวางการดูดซึมไขมันได้บ้าง แต่ถ้าดื่มมากอาจเป็นการเพิ่มแคลอรี เพราะไวน์แดงครึ่งแก้วให้พลังงานถึง 72 แคลอรี

สาหร่าย ชาสาหร่าย ช่วยในการขับน้ำและของเสียออกจากร่างกาย แต่จะช่วยเผาผลาญไขมันได้จริงหรือไม่นั้นยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่

หน่อไม่ฝรั่ง กรดแอสพาราจีนในหน่อไม่ฝรั่งช่วยทำให้ผอมได้ แต่กรดเหล่านี้เพียงช่วยขับน้ำออกเท่านั้น

ทีนี้สาวๆ คงรู้กันแล้วนะคะว่าควรจะเลือกทานอะไรในมื้อต่อๆ ไปบ้าง รู้แล้วอย่าลืมบอกต่อเพื่อนข้างๆ ด้วยนะคะ

ขอขอบคุณ ที่มา : นิตยสารเรื่องผู้หญิง ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

8 ทิปการทานแบบซูเปอร์โมเดล

1. ดื่มชาเขียวหรือจิบกาแฟก่อนทานอาหารมื้อใหญ่ที่ร้านอาหาร : มันช่วยบรรเทาอาการหิวของคุณให้รุนแรงลดลงได้

2. เปลี่ยนมาทานอาหารประเภท Low Carb หรือปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ : มันจะช่วยให้คุณไม่ต้องแบกแคลอรีที่ต้องเบิร์นในแต่ละวันเยอะ

3. ราดแซนด์วิชของคุณด้วยมัสตาร์ดแทนมายองเนสที่ทานอยู่เป็นประจำ : มายองเนสอุดมไปด้วยไขมันแถมมีคุณค่าทางอาหารที่น้อยมากเลย

4. ห้ามพลาดทานอาหารเช้า : อาหารเช้าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญพลังงาน (Metabolism) และจะทำให้คุณไม่หิวโซขนาดหนักจนไปทานมื้อเที่ยงและมื้อเย็นที่มากเกินความพอดี

5. แยกหนังไก่ออกจากเนื้อไก่ทุกครั้ง และทานเฉพาะส่วนที่เป็นเนื้อ : การไม่ทานหนังไก่จะช่วยลดปริมาณไขมันในเมนูอาหารนั้นๆ ได้ถึง 75% เพราะปกติแล้วไก่มันจะสะสมไขมันหนังของมัน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าหนังไก่ทอดจึงเป็นอะไรที่ Yummy เอามากๆ เลย

6. หั่นผักเป็นชิ้นแช่ไว้ในตู้เย็น แล้วหยิบทานจิ้มกับดิบซึ่งเป็นน้ำสลัดเบาๆ ประเภท Low Fat ประหนึ่งเป็นสแน็ค : พยายามเลี่ยงสแน็คที่เป็นแป้งและจิ้มกับดิบที่หนักด้วยความมันและไขมัน

7. เลือกทานผลไม้แทนการดื่มแต่น้ำผลไม้ : น้ำผลไม้จะมีน้ำตาลที่มีแคลอรีค่อนข้างสูงและมีไฟเบอร์ที่จำเป็นต่อร่างกายน้อยมาก การทานผลไม้จะช่วยทำให้คุณรู้สึกอิ่ม ตรงกันข้ามกับการทานน้ำผลไม้เฉยๆ

8. เคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อลดความหิวและความอยากอาหารได้ : เพราะปากได้เคี้ยว ฟันได้บดหมากฝรั่ง มันก็จะช่วยลดอาการโหยอาหารไปได้มากเลยล่ะ แต่หมากฝรั่งที่ใช้ควรเป็นหมากฝรั่งแบบ Sugar Free หรือแบบไม่มีน้ำตาล

ขอขอบคุณ ที่มา : Spicy ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

5 กระตุ้นการเผาผลาญด้วยกลิ่นจากธรรมชาติ

ใครจะรู้ละคะว่ากลิ่นหอมจากธรรมชาติก็มีส่วนช่วยทำให้สาวๆ ผอมเพรียวลงได้อีกทางหนึ่งนอกจากการออกกำลังกาย หรือควบคุมอาหาร และถ้าอยากรู้ว่ากลิ่นไหน ช่วยอะไรได้บ้างก็ตามมาดูกันเลยค่ะ

กลิ่นส้ม กลิ่นหอมของส้มจะไปกระตุ้นระบบประสาททำให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีซึ่งเป็นกลิ่นที่เหมาะจะสูดดมตั้งแต่ตอนเช้าที่ตื่นขึ้นมาเลย หรือก่อนทานอาหารเช้า จะได้ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ตื่นตัวเร็วขึ้นค่ะ

กลิ่นมิ้นท์ น้ำมันหอมระเหยกลิ่นมิ้นท์หรือสะระแหน่นี้ได้ขึ้นชื่อมานานแล้วในเรื่องช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ ถ้าหากสูดดมหลังมื้ออาหารทุกครั้ง ถึงคุณจะอ้วนก็สามารถผอมลงได้ค่ะ

กลิ่นมะกรูด กลิ่นหอมของมะกรูดสดจะช่วยในเรื่องระบบลำไส้และการย่อยอาหาร นอกจากนี้การสูดดมน้ำมันของผิวมะกรูดก็ยังช่วยให้จิตใจสงบและทำให้ไม่ลงพุงได้ เพราะคนที่เครียดบ่อยจะเกิดการสะสมไขมันที่หน้าท้องทำให้ลงพุงได้ค่ะ

กลิ่นแคลรี่เสจ กลิ่นนี้ส่วนมากจะหาได้จากร้านทำสปา จะไม่ค่อยมีขายทั่วไป ซึ่งสรรพคุณของกลิ่นนี้จะช่วยลดความหดหู่ ความกระวนกระวายใจ หรืออาการซึมเศร้าทั้งหลายที่เป็นสาเหตุทำให้กระบวนการเผาผลาญทำงานได้ไม่เต็มที่ จนเป็นที่มาของความอ้วนค่ะ

กลิ่นไธม์ ไธม์เป็นสมุนไพรของฝรั่ง ซึ่งมีสรรพคุณช่วยให้ลำไส้และกระเพาะอาหารย่อยเนื้อสัตว์ได้ดีขึ้นด้วยค่ะ ดังนั้นชาวต่างชาติจึงนิยมนำมาใส่ในเนื้อย่าง หรือซุปเนื้อ ปัจจุบันมีขายตามซุปเปอร์มาเก็ตในบ้านเราแล้วสนใจก็สามารถซื้อหามาติดตู้เย็นที่บ้านได้นะคะ

ขอขอบคุณ ที่มา : นิตยสารเรื่องผู้หญิง ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

8 วิธีพรางตาระหว่างรอความผอม

ถ้าคุณกำลังพยายามไดเอทอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่นกกระจิบกระจอกก็ยังตามแซวหุ่นอวบอั๋นของคุณกันไม่เลิก อย่าเพิ่งท้อใจค่ะ ระหว่างนี้ลองพรางตาเพื่อนๆ ปากร้ายด้วย 8 วิธีสุดฉลาดนี้ไปก่อน เอาไว้ให้คุณผอมจริงๆ แล้วค่อยแต่งตัวสวยไปเดินโชว์แก้แค้นกันอีกที

1. สีเดียวสามัคคีปรองดอง ไม่จำเป็นต้องสีเดียวกันเป๊ะทั้งตัว อาจจะไล่เฉดสีอ่อนแก่ให้ดูสนุกขึ้น หรือเลือกใช้สีอื่นที่ใกล้เคียงกันที่สุดมามิกซ์แอนด์แมทช์กันเข้าไป เสื้อผ้าสีเดียวกันทั้งตัวจะพรางให้คุณดูชะลูดขึ้น ทำให้สายตาคนที่มองเข้ามาไม่ถูกดึงดูดไปที่ส่วนใดส่วนหนึ่ง อย่างหน้าท้อง ต้นแขน หรือส่วนอึ๋มๆ ที่คุณอยากจะซ่อน

2. เมคอัพใสๆ ไม่ต้องฉ่ำโบ๊ะ เคยเห็นก้อนขนมเปี๊ยะที่ป้ายจุดแดงเอาไว้สองแต้มไหม สาวตุ้ยนุ้ยแก้มยุ้ยทั้งหลายจะกลายเป็นอย่างนั้นไปทันที ถ้าเผลอโบ๊ะหน้าด้วยสีสดๆ จัดจ้าน เพราะคนอวบจะมีแก้มมาก คางก็ห้อย ตาดูเล็กลงเพราะถูกแก้มเบียด วิธีแต่งหน้าที่ดีที่สุดจึงต้องแต่งหน้าด้วยโทนสว่างเป็นธรรมชาติ ส่วนที่ปากก็ใช้สีอ่อนๆ เข้าไว้เพื่อไม่ให้คางสองลอนกลายเป็นจุดเด่น และพยายามใช้มาสคาร่าเน้นดวงตาให้กลมโตกว่าความเป็นจริง จะช่วยให้ดูน่ารักสดใสขึ้น

3. บอยคอตกำไลข้อเท้า ประกาศจากสมาคมสาวสวยหมวยอึ๋ม (เกินพิกัด) แห่งสยามประเทศ ฉบับที่ 1112 ความว่า สมาชิกทุกคนขอปฏิญาณว่าจะไม่สนับสนุนการซื้อกำไลข้อเท้าอีกต่อไปเนื่องจากจะทำให้เกิดสภาวะเสียเซลฟ์ ทำให้คนใส่ดูตัวเตี้ยอ้วนตันขึ้นอีกประมาณ 2 กิโลในบัดดล แถมยังเป็นการดึงสายตาคนดูให้มองไปที่น่องอวบๆ ชวนให้นึกถึงขาโต๊ะสนุ้กของสมาชิกอีกด้วย ทางสมาคมจึงขอประกาศคว่ำบาตรกำไลข้อเท้าทุกไซส์ทุกขนาดและทุกๆ ดีไซน์มา ณ ที่นี้ อาเมน!

4. สีดำล้ำเลิศ สีดำนี่ล่ะคือแฟชั่นที่ไม่มีวันตาย และยังช่วยให้คนใส่ดูผอมลงอย่างน้อยๆ ก็ครึ่งกิโลโดยไม่ต้องพยายามแขม่วพุงเลย เริ่ดไหมล่ะ

5. ส้นสูงเท่ากับออกกำลัง ผลการวิจัยบอกว่าเทียบกับคนที่ใส่รองเท้าแตะแล้ว ผู้หญิงที่ใส่รองเท้าส้นสูง จะต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นถึง 12% ต่อการเดินหนึ่งครั้ง ธิดาช้างทั้งหลายจึงไม่ควรฝากชีวิตเอาไว้กับรองเท้าส้นเตี้ย แต่ควรใส่ส้นสูงเพื่อเพิ่มการเผาผลาญให้ตัวเอง อย่างไรก็ตามขอเตือนว่าคำว่าสูงในที่นี้ควรจะใส่เป็นส้นที่ไม่สูงเกิน 1 นิ้วครึ่ง เพราะสาวอวบจะมีปัญหาเรื่องข้อเข่าเสื่อมอยู่แล้ว จึงไม่ควรเอาส้นสูงปรี๊ดไปเพิ่มภาระให้กระดูกอีกโดยไม่จำเป็น ส่วนรองอเท้าส้นตันส้นตึกนั้นเป็นศัตรูของคุณ มันจะทำให้คุณดูตันทั้งบนและล่าง อะเฟรดอยู่นะ!

6. กำไลใส่ได้ถ้าไม่โต ถ้าคุณมีแขนเพรียวเรียวงามก็ไปอย่าง แต่สาวอ้วนลำแขนเป็นปล้องๆ อย่างเราจะดับสนิทถ้ามีกำไลอันโตๆ มาคล้องเรียกร้องความสนใจอยู่ที่ข้อมือ แถมยังพลอยทำให้แขนดูสั้นลงไปอีกด้วย ถ้ารักจะใส่กันจริงๆ สาวเจ้าเนื้อควรใส่กำไลเส้นบางๆ บางที่สุดที่จะบางได้ และไม่ควรเป็นกำไลวง แต่เป็นกำไลแบบสายสร้อยจะเหมาะกว่า

7. ลายทางคือคำตอบ ลายทางจะช่วยพรางรูปร่างกลมๆ ของคุณให้ดูบางขึ้น แต่ต้องเลือกลายที่เกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ อย่างเช่นลายทาง หรือลายเล็กๆ กระจายห่างๆ ส่วนลายที่ใส่เมื่อไรหมดอนาคตเมื่อนั้นได้แก่ลายขวาง เพราะมันจะเน้นความกว้างของลำตัว ทำให้คุณดูอ้วน อ้วน และอ้วนเหนือคำบรรยาย

8. แสกข้างดีกว่ากลาง ใบหน้ากลมๆ จะกลายเป็นขนมเค้กถ้ามาพบกับผมแสกกลาง คนอ้วนจึงควรจะเลือกแสกข้างแล้วปล่อยยาวลงมาปิดแก้มไว้ อีกทรงหนึ่งที่ขอห้ามเด็ดขาดคือทรงรวบหมดแล้วมัดเป็นหางม้า ยกเว้นคุณตั้งใจจะประกาศให้โลกรู้ว่าถึงเทศกาลขนมไหว้พระจันทร์แล้วนั่นก็อีกเรื่อง

ขอขอบคุณ ที่มา : Spicy ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

5 กลยุทธ์เด็ดพิชิตสะโพกสวย

หุ่นสวยไม่ใช่เรื่องยากสำหรับสาวคนไหนที่กำลังมองหาวิธีการทำให้สะโพกสวย วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ มาฝาก ลองทำตามนี้นะคะ

1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเต้นแอโรบิก การวิ่ง ปั่นจักรยาน การบริหารเฉพาะส่วน นับเป็นวิธีที่จะทำให้สะโพกสวยที่สามารถใช้ได้ทั้งคนอ้วนและคนผอม ทำให้สะโพกของคุณแน่นกระชับสวยได้รูป

2. ควบคุมอาหาร การควบคุมคือการเลือกรับประทานให้พอดีกับความต้องการของร่างกาย ไม่ใช่การอดอาหารนะคะ แนะนำให้คุณทานให้ครบทั้ง 3 มื้อ และหยุดทันทีถ้ารู้สึกอิ่ม ควรทานอาหารที่มีคุณประโยชน์มากกว่ารับประทานตามใจปาก รวมทั้งลดอาหารหวานและอาหารจำพวกที่ให้พลังงานสูง เปลี่ยนมาดื่มนมที่พร่องมันเนย หรือขนมขบเคี้ยวที่มีประโยชน์อย่างถั่ว เม็ดแตงโม ดีกว่าค่ะ

3. การนวดช่วยลดสะโพกย้อย ทำให้ช่วงต่อจากก้นลงมาจนถึงบริเวณช่วงขาของคุณได้รับประโยชน์ ด้วยการนวดกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด นอกจากนี้ยังช่วยกำจัดของเสียและไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนังได้อีกด้วย แนะนำให้คุณใช้ครีมที่ใช้ขจัดไขมันใต้ผิวหนังนวดตอนก่อนนอน หลังอาบน้ำในตอนเช้า หรือก่อนทานอาหารหนึ่งชั่วโมง นวดติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ

4. การขัดผิว ช่วยขจัดรอยแตกลาย จุดด่างดำ ผดผื่นแดง และรอยหยาบกร้าน ทำให้ผิวพรรณของคุณเนียนและนุ่มนวล ด้วยการใช้น้ำมันขัดผิวที่ทำขึ้นเองแบบง่ายๆ โดยการนำเกลือเม็ดใส่ลงในขวด ผสมกับน้ำมันมะกอก รอให้เกลือดูดซึมน้ำมันเข้าไป จากนั้นเติมน้ำหอมกลิ่นที่คุณชอบลงไป ช่วยให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายระหว่างขัดผิว เสร็จแล้วนำมาขัดวนเป็นวงกลมบริเวณรอยแตกหรือรอยหยาบกร้าน

5. การเสริมแต่งด้วยชุดชั้นใน วิธีนี้เลิศมาก ลองหันมาพึ่งชุดชั้นในที่ช่วยเสริมบุคลิกภาพเน้นรูปร่าง รัดสัดส่วนของคุณให้ดูดี ทั้งหน้าอก เอว หน้าท้อง และสะโพก

วิธีการง่ายๆ เท่านี้ คงช่วยเพิ่มความมั่นใจให้รูปร่างของคุณสวยขึ้นอีกเป็นกองเลยใช่มั้ยละคะ

ขอขอบคุณ ที่มา : นิตยสารเรื่องผู้หญิง ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต